(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์อิงลงกังวลโควิดในประเทศระบาดหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 16, 2021 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุพันกว่าคนต่อวัน และจะต้องติดตามผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันนี้จะออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดอย่างไรบ้าง เพราะอาจถ่วงการฟื้นตัวเศรษฐกิจและแผนการเปิดประเทศ

อย่างไรก็ดี Sentiment จากต่างประเทศถือว่าดีมาก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยตามดาวโจนส์ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีก และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

แต่ตลาดฯยังมีปัจจัยลบเกี่ยวกับวัคซีนโควิดที่มีการระงับใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งไทยเราพึ่งพาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามาก ทำให้อาจกระทบการเปิดประเทศได้

พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,035.99 จุด เพิ่มขึ้น 305.10 จุด (+0.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,170.42 จุด เพิ่มขึ้น 45.76 จุด (+1.11%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,038.76 จุด เพิ่มขึ้น 180.92 จุด (+1.31%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.2 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 146.39 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 34.03 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 เม.ย.)1,541.12 จุด ลดลง 25.22 จุด (-1.61%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,364.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 เม.ย.) ปิด 63.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 เม.ย.) อยู่ที่ 2.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.20 แข็งค่าหลัง Bond Yield สหรัฐอ่อนตัวลง
  • มติกก.โรคติดต่อแห่งชาติยังไม่ล็อกดาวน์หรือห้ามออกนอกเคหสถาน ยกระดับโซนสีจังหวัด เหลือสีแดง 18 จังหวัด สีส้ม 59 จังหวัด เสนอศบค.เคาะวันนี้ สีแดงปิดร้านอาหาร 3 ทุ่ม สีส้มได้ถึง 5 ทุ่ม กำหนดมาตรการทั่วประเทศงดการเรียนการสอน ปิดผับ บาร์ สถานบันเทิง อาบอบนวด ห้ามจำหน่ายสุราในร้านอาหาร งดปาร์ตี้ กิจกรรมรวมตัวเกิน 50 คน ขณะที่ยอดผู้ติดโควิด-19 ใหม่ 1,543 ราย กระจายใน 72 จังหวัด ระลอกใหม่ 14 วัน ยอดติดเชื้อมากกว่าระลอกแรก 11 เดือนเกือบ 2 เท่า
  • สศช.ประคองเศรษฐกิจฟื้นรูปตัว "K" อัดมาตรการช่วยเฉพาะกลุ่ม ระยะยาวปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ "ทีเอ็มบี" ชี้ 3 ธุรกิจที่รายได้ ฟื้นตัวเกิน 100% ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ยางพารา อิเล็กฯ ภาคธุรกิจจับตาระลอกใหม่กระทบฟื้นตัว "ท่องเที่ยว" ชี้เทรนด์ตัว "K" มีทั้งขาขึ้น-ขาลง "กัปตันพุฒิพงศ์" คาดสายการบินฟื้นแบบตัว U
  • FETCO คาดเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับซื้อหุ้นไทยไตรมาส 2 เหตุ "สภาพคล่องล้น-กำไรบจ.โต 40-50%-กระจายวัคซีนตามแผน" บลจ.ยูโอบีประเมินปีนี้ต่างชาติซื้อสุทธิ 3 หมื่นล้าน ด้านบลจ.กสิกรไทย ชี้ หากโควิดคลี่คลายดัชนีมีลุ้นแตะ 1,650 จุด
  • ธปท.รับถกแบงก์ต่อเนื่องเพื่อพิจารณาต่ออายุมาตรการ "พักหนี้" เอสเอ็มอีที่จะหมดอายุสิ้นมิ.ย.นี้ คาดชัดเจนก่อนไตรมาส 2 ปีนี้ เชื่อมาตรการพักทรัพย์-สินเชื่อฟื้นฟูมีส่วนช่วยให้หนี้เสียลด ด้านเอสซีบียังเร่งเดินหน้าช่วยเหลือลูกหนี้เป็นหลักปีนี้ ผ่านมาตรการ พร้อมอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบโควิด-19 รอบ 3

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS(กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 26 บาท รับข่าวดีภาครัฐเตรียมอนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกจากนี้ราคาหุ้นยัง Laggard จากกลุ่มโดย YTD ปรับขึ้นเพียง 7.2% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มปรับขึ้น 22%
  • IIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 31 บาท มองบวกต่อธุรกิจ ERP ที่กลับมาเติบโต ขณะที่ธุรกิจ CRM ยังคงเป็น Star เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจ CEM และ Data Analytic ศักยภาพโตสูง พร้อมคาดกำไรปกติปี 2564-2566 เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 31% CAGR และเป็นธุรกิจที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทิลโดยเฉพาะเพื่อรับการ WFH
  • BGRIM (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 48 บาท ธุรกิจทางตรงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการระบาดโควิด-19 แต่ราคาหุ้นถูกขายตามตลาดจึงเป็นโอกาสที่หายากในการเก็บหุ้นพื้นฐานดี ด้านโครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนามมีขนาดใหญ่ ส่วนโปรเจคอื่นใน pipeline ยังเป็นไปตามแผน คาดสิ้นปี 2564 BGRIM มีกำลังการผลิตติดตั้ง 2GW พร้อมประเมินกำไรสุทธิ ปี 2564-2565 ที่ 3 พัน ลบ. และ 3.37 พันลบ. +40%YoY, +11YoY ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ