นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่า บริษัทรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้ามินบูให้กับรัฐบาลเมียนมาเข้ามาเป็นงวดที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นการได้รับการชำระเต็มจำนวนและตรงตามกำหนด สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศเมียนมาที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแต่อย่างใด โดยโครงการดังกล่าวยังคงดำเนินไปได้ตามปกติและสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
โรงไฟฟ้ามินบู มีกำลังการผลิตติดตั้ง 220 เมกกะวัตต์ ภายหลังจากการจำหน่ายไฟฟ้าโครงการเฟสที่ 1 ขนาด 50 เมกกะวัตต์ก็สามารถทำกำไรได้สูงถึง 180 ล้านบาท ขณะที่โรงไฟฟ้าเฟสที่ 2-4 เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีความพร้อมอย่างมากในด้านทีมงานวิศวกรและวัสดุสำหรับการก่อสร้าง คาดว่าเฟส 2 จะแล้วเสร็จพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าได้ภายในปี 64 และเฟส 3-4 ทยอยต่อเนื่องในปีถัดไป ซึ่งเมื่อโรงไฟฟ้ามินบูดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 4 เฟส บริษัทฯ จะรับรู้รายได้อย่างมหาศาลกว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐ สนับสนุนผลประกอบการให้ SCN ได้อย่างมีนัยสำคัญ
"โรงไฟฟ้ามินบู เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมา เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าสำคัญระดับประเทศ สร้างความเจริญให้เข้าสู่พื้นที่ห่างไกล เรามั่นใจว่าโครงการมินบูจะได้รับการดูแลและสนับสนุนที่ดีทั้งจากประชาชนและทุกชุดรัฐบาลอย่างต่อเนื่องไปอีกยาวนาน ด้วยโรงไฟฟ้ามินบูคือหัวใจสำคัญ ที่ตั้งแต่เริ่มต้นจ่ายไฟจนถึงปัจจุบันได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาการดำเนินธุรกิจในประเทศให้พัฒนาขึ้นอย่างมาก มีความแข็งแกร่งและจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน"นายฤทธี กล่าว