นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บล.เอเซีย พลัส ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ PROEN เปิดเผยว่า การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 3.25 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 30 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
"ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ทิศทางความต้องการใช้ Data Center ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่ม E-Commerce และ Game ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมได้ปรับตัวมาสู่ด้านไอซีทีและเทคโนโลยี"นางยอดฤดี กล่าว
ด้านนางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า PROEN มีอัตรากำไรขั้นต้นย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 16% จากการเน้นบริหารจัดการต้นทุนได้ดี และบริษัทให้บริการงานรับเหมาก่อสร้างงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นบริษัทมีบริการแบบครบวงจรด้วย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า PROEN จะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ลงทุน เนื่องจากมีโอกาสเติบโตสูงในยุคของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบ New Normal ธุรกรรมออนไลน์เติบโตมากขึ้นทำให้มีช่องทางสร้างรายได้เพิ่มต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจก่อสร้างในงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐานมีแนวโน้มที่ดี
ขณะที่นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการก่อสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล สำนักงานแห่งใหม่ พื้นที่อาคารรวม 7,452 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์ข้อมูล ประมาณ 3,000 ตารางเมตร สามารถรองรับตู้ Server ได้ประมาณ 1,000 ตู้ จากปัจจุบันมีตู้ให้บริการประมาณ 645 ตู้ โดยจะเป็นการทยอยลงทุน และแล้วเสร็จในปี 65 พร้อมกันนี้ยังมีแผนนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจการให้บริการ ICT และงานรับเหมาก่อสร้าง
ในปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดยย้อนหลัง 3 ปี บริษัทมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 20% และจะเน้นสร้างรายได้ประจำจากธุรกิจ ICT พร้อมรุกขยายบริการ Cloud และรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และคาดว่าจะช่วยสนับสนุนอนาคตให้มีการเติบโตได้
"ภายหลังการเข้าระดมทุนในตลาด mai แล้วจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ต้นทุนทางการเงินลดลง เพิ่มศักยภาพในการรับงานโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยกระดับชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในระดับประเทศ เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน โดยหวังว่าหุ้น PROEN จะมีคุณสมบัติเป็นทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้อย่างแน่นอน" นายกิตติพันธ์ กล่าว
PROEN ประกอบธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Information Communication and Technology: ICT) และให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศด้านศูนย์ข้อมูล Data Center และบริการอินเทอร์เน็ต ISP และบริการคลาวด์ (Cloud Service) โดย PROEN ให้บริการศูนย์ข้อมูลและอินเทอร์เน็ตพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก (Internet Data Center: IDC) ตั้งอยู่ที่อาคาร กสท.โทรคมนาคม บางรัก และมีคุณสมบัติเทียบเท่าศูนย์ข้อมูลประเภท TIER 3 มีพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 2,022 ตารางเมตร และสามารถรองรับตู้ Server ได้ประมาณ 645 ตู้
นอกจากนี้ PROEN ยังจำหน่ายอุปกรณ์และซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่สนับสนุนการให้บริการ IDC หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับ ICT ได้แก่ บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระดับองค์กร (Internet Service Provider: ISP), บริการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย (DDoS Protection), บริการ Cloud, บริการ Web hosting และบริการจดโดเมน เป็นต้น
2) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสำหรับงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Telecommunication and Infrastructure Service) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เริ่มดำเนินการในปี 60 โดย PROEN และ TELEBIZ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้บริการงานก่อสร้างงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐานแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Solution)