บมจ.ไทยบริติชซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง(TBSP) เตรียมขยับเพิ่มสัดส่วนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลงส่งผลกระทบทำให้รายได้ครึ่งปีแรกไม่เติบโต แต่ก็เชื่อว่าครึ่งปีหลังสถานการณ์ตลาดรวมน่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงเลือกตั้ง พร้อมกันนั้นบริษัทยังเห็นโอกาสอีกมากในการขยายตลาดภาครัฐ จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐเพียง 5-7% ของรายได้รวม
นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ TBSP กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้บริการด้านการพิมพ์เอกสารปลอดการปลอมแปลง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหมู่องค์กรขนาดใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินต่างๆ เท่านั้น แต่ได้เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจในยุคที่ต้องแข่งขันสูง
"ผมเชื่อมั่นว่าธุรกิจด้านการพิมพ์เอกสารปลอดการปลอมแปลงของเมืองไทยจะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะวิถีชีวิตและความต้องการของคนต้องการสร้างความปลอดภัยแก่ข้อมูลต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพิเศษและความพึงพอใจสูงสุด ทั้งยังมั่นใจในเรื่องข้อมูลสำคัญๆ ต่างๆ จะถูกจัดส่งได้อย่างปลอดภัย"นายบรรณ กล่าว
นายบรรณ กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าขยายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกให้เป็น 11% ในปี 51 จากระดับ 10% ในปีนี้ และจากระดับ 7% ในปี 49 เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี 50 บริษัทได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับความผันผวนของค่าเงินบาท ทำให้รายได้ไม่เติบโต หรือทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตลาดโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น ผู้คนก็จะกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งในปลายปีนี้ ขณะที่ภาครัฐก็ยังเน้นนโยบายความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดปีหน้า (2551) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทวางเป้าหมายหันมาเน้นการรับงานภาครัฐมากขึ้นจากขณะนี้ที่มีสัดส่วนลูกค้าจากภาครัฐเพียง 5-7% ของรายได้รวม
"ภาครัฐที่ถือเป็นตลาดใหญ่ปัจจุบันก็มีการเปิดกว้างมากขึ้นถือเป็นโอกาสที่ดีมากเช่นกัน และมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้บริษัทที่มั่นคงเชื่อถือได้ในเมืองไทยที่ได้มาตรฐานสากลให้บริการในด้านดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน"นายบรรณ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ TBSP กล่าวว่า ในปีนี้ตลาดการพิมพ์ในประเทศมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมทั้งภาครัฐและเอกชน และคาดว่าปี 51 จะเติบโตขึ้นราว 12-15%
TBSP ยังระบุว่า แม้ขณะนี้บริษัทจะมีสภาพคล่องของหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังไม่มีแผนแตกพาร์ หรือเพิ่มทุน เนื่องจากยังมีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ
อนึ่ง TBSP เป็นบริษัทในกลุ่มเอสซีจีเปเปอร์ ธุรกิจกระดาษของเครือซิเมนต์ไทย (SCC)
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--