นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่แข็งแกร่ง ขณะที่แรงกดดันหลักยังอยู่ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,600 จุด
ขณะที่ตลาดฯ ยังคงจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของบริษัทจดทะเบียน นำโดยกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มแรกที่จะเริ่มในวันที่ 21 เม.ย.คาดว่าส่วนใหญ่จะมีผลขาดทุนด้านเครดิตแต่มีแนวโน้มลดน้อยลงจากไตรมาสที่แล้ว
อีกทั้งทางสหรัฐจะมีการรายงานของสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รวมทั้งเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือน มี.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือน มี.ค.
ส่วนทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยบวก อาทิ ไตรมาส 1/64 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากฐานที่ระดับต่ำในช่วงต้นปี 2563 และกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าแนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอและจะลดลงใน 2 สัปดาห์ หลังภาครัฐและหน่วยงานเอกชน Work from Home มากขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอยู่ในโซนอ่อนค่า ได้แก่ KCE, HANA, DELTA และ SMT รวมทั้งหุ้นได้ประโยชน์จาก WFH ได้แก่ COM7-SYNEX-SIS-HMPRO-ILM-ITEL- INSET-NETBAY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,755-1,795 เหรียญ/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 25,850-26,490 บาทต่อบาททองคำ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงแตะระดับ 1.54% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นผลบวกต่อทองคำเพิ่มเติม แนะนำ เน้นฝั่ง Long เมื่ออ่อนตัว