TOG เล็งร่วมทุนพันธมิตรยุโรปทำแล็ปที่เวียดนามปี 51,คาดรายได้โตปีละ 15%

          บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG)เผยผลเจรจาพันธมิตรยุโรปเพื่อร่วมลงทุนทำห้องแล็ปในเวียดนามคืบหน้า คาดปี 51 ได้เห็นความร่วมมือลงทุน 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้นเดินหน้าลุยจีนต่อ อีกทั้งยังมีการเจรจาความร่วมมือกับลูกค้าเดิมที่ต้องการไปทำตลาดที่ประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันตั้งเป้ารายได้เติบโตปีละ 15% หลังงานที่ทำมาตั้งแต่ต้นเริ่มผลิดอกออกผลให้เก็บเกี่ยวแล้ว ขณะที่กำไรสุทธิก็มีโอกาสที่จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน 
          นายสว่าง ประจักษ์ธรรม ประธานกรรมการ TOG เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การเดินทางไปฝรั่งเศสเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรประเทศยุโรปถึงแผนความร่วมทุนกับ Local Partner จัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อทำห้องแล็ปที่เวียดนามใช้เงินลงทุน 1-2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 51 ส่วนไปลงทุนที่ประเทศจีนคงจะรอให้ที่เวียดนามเรียบร้อยก่อน
          "แผนร่วมทุนกับพันธมิตรยุโรปเพื่อทำห้องแล็ปที่เวียดนามมีความก้าวหน้าของพอสมควร แต่ต้องมีการพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้งสองครั้ง คาดว่าจะดำเนินการปีหน้า...เราต้องการให้เร็วที่สุด ส่วนการไปลงทุนที่ประเทศจีนคงหลังจากนั้น เพราะต้องมีการเจรจากันอีกหลายรอบ"นายสว่าง กล่าว
          นายสว่าง กล่าวว่า ห้องแล็ปที่เวียดนามเมื่อเสร็จแล้ว จะเป็น Perfection Factory ใช้สำหรับผลิตสินค้าขายในเวียดนามและส่งไปขายยังประเทศอื่น ๆ ด้วย
          นอกจากนี้ การไปฝรั่งเศสครั้งนี้ ยังได้ไปร่วมงาน Internation Exhibition Fair ซึ่งผู้ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจแว่นตา เลนส์ เครื่องมือที่เกี่ยวข้อง จะมารวมตัวกันที่งานนี้ ซึ่งทุกครั้งที่มีงานนี้จะมีการนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางธุรกิจระหว่างกันและกัน ซึ่งเราเองก็ได้ข่าวดีกลับมาด้วย 
          "ไปฝรั่งเศสเที่ยวนี้ก็มีข่าวดีกลับมาด้วยมีทั้งลูกค้าเก่าเพิ่มโปรดักส์ไลน์ใหม่ รวมถึงลูกค้าที่ประเทศอังกฤษซึ่งมีแผนจะไปมี Activity ที่ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน ก็ต้องไป SET UP อะไรต่ออะไรใหม่ เราคงจะไปช่วย แต่การพูดคุยคงต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะลงตัว"นายสว่าง กล่าว
*ตั้งเป้ารายได้-กำไรสุทธิโตปีละ 15% 
          นายสว่าง กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตของรายได้ในปี 51 และปีต่อๆไปไว้ที่ 15% ส่วนกำไรสุทธิก็คงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากผลดำเนินงานที่ทำมาตั้งแต่ต้นเริ่มส่งผลกลับมา ไม่ว่าจะเป็นงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ งานเจรจาต่อรองกับลูกค้าต่างๆ ซึ่งพอการเจรจาจบก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการของธุรกิจ 
          "ผมมีความรู้สึกที่เป็น Positive ต่อผลประกอบการของบริษัท เพราะสิ่งต่างๆที่เราทำมา เริ่มส่งผลให้เก็บเกี่ยวได้ ยิ่งเราทำธุรกิจที่ไม่เหมือนชาวบ้านพอประสบความสำเร็จ ใครต่อใครก็สนใจอยากมาขอคุยด้วยพากันไปเรื่อยๆ พอการเจรจากับลูกค้าจบ ธุรกิจก็จะเริ่ม ที่นี้มันจะไปเรื่อยๆเป็นปีๆ นี่คือ Nature ของธุรกิจที่เราทำอยู่"นายสว่างกล่าว 
          สำหรับปีนี้บริษัทค่อนข้างสบายใจว่าผลประกอบการปีนี้ คาดว่าจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 15% จากปีก่อนแน่นอน โดยปีที่แล้วมีรายได้ 1,250.62 ล้านบาท
          นายสว่าง กล่าวถึงหุ้น TOG ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ว่า ช่วงแรกๆหุ้น TOG อาจจะยังไม่น่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นขนาดเล็ก คนยังไม่รู้จัก ไม่มีสภาพคล่อง แต่เราก็พยายามแสดงผลประกอบการให้คนเห็น แล้วลักษณะธุรกิจของเราเหมาะที่จะลงทุนระยะยาว
          "ธุรกิจเรา ใครที่อยากจะถือยาว รับรองไม่ผิดหวังแน่ครับ ปีนี้ก็มีปันผลแน่ๆ คงจะจ่ายในอัตราสูงกว่าปีที่แล้ว และจะเยอะขึ้นทุกปี"นายสว่าง กล่าว
          ปัจจุบัน TOG ผลิตและส่งออกเลนส์แว่นตาไปทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศ สำหรับในประเทศไทยสินค้าถูกขายให้กับตัวแทนจำหน่ายไปขายผ่านร้านแว่นตาชั้นนำมากกว่า 2 พันร้านค้า อาทิ หอแว่น แว่นท็อปเจริญ แว่นบิวตี้ฟูล ฯลฯ สินค้าที่ผลิตมีทั้งเลนส์พลาสติก, เลนส์เปลี่ยนสี และเลนส์กระจก มีทั้งชนิดเลนส์สำเร็จและเลนส์สั่งฝนพิเศษ รวมถึงแบ่งตามปัญหาสายตา
          วานนี้ ราคาหุ้น TOG ปิดที่ 3.66 บาท บวก 0.22 บาท (+6.40%)โดยราคาปรับขึ้นไปสูงสุด 3.68 บาท ซึ่งทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาด