ดัชนีกลุ่มเหล็กพุ่ง 6.73% มาอยู่ที่ 43.64 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด เมื่อเวลา 10.19 น.นำโดยหุ้น TSTH พุ่ง 17.70% มาอยู่ที่ 1.33 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 202.18 ล้านบาท
หุ้น INOX พุ่ง 11.34% มาอยู่ที่ 1.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท มูลค่าซื้อขาย 118.43 ล้านบาท
หุ้น CSP พุ่ง 13.83% มาอยู่ที่ 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.84 ล้านบาท
หุ้น GJS พุ่ง 12% มาอยู่ที่ 0.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 28.07 ล้านบาท
หุ้น SAM พุ่ง 9.09% มาอยู่ที่ 0.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.30 ล้านบาท
บล. เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH กำไรพุ่ง มีโอกาสจุดพลุหุ้นกลุ่มเหล็กอีกครั้งหลัง TSTH ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4 ปี 63/64 (ม.ค-มี.ค.64) มีกำไรสุทธิ 405.86 ล้านบาท (+992%QoQ,+307%YoY) หนุนด้วยปริมาณการขายและราคาขายที่สูงขึ้น
โดยราคาเหล็กเส้นในประเทศปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงจากระดับราคา 16 บาท/กก. ในช่วงเดือน เม.ย 63 มาอยู่ที่ 22 บาท/กก. ในปัจจุบัน สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในฝั่งของประเทศจีนที่เป็นผู้ผลิตและบริโภคเหล็กมากที่สุดในโลก รวมถึงเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่กลับมาเติบโตแข็งแกร่งและกำลังจะมีโครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคจำนวนมาก
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าบริษัทเหล็กอื่น ๆ ใน SET ที่กำลังจะทยอยประกาศผลประกอบการออกมา น่าจะทำกำไรโดดเด่นอย่างมากในงวดไตรมาส 1/64 แม้ว่าราคาหุ้นในกลุ่มเหล็กหลายบริษัทจะปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเหล็กปรับตัวขึ้น 52% ตั้งแต่ต้นปี แต่ทิศทางราคาเหล็กที่ยังเป็นช่วงขาขึ้นน่าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเหล็กยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/64 เพราะล่าสุดเดือน เม.ย. 2564 ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน (HRC) ในจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการบริโภคเหล็กครึ่งหนึ่งของโลกยังมีทิศทางอันร้อนแรงต่อเนื่อง ราคาขายเพิ่มขึ้น 17% MoM มาที่ 865 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากเดือนก่อนหน้า 740 เหรียญสหรัฐ/ตัน จึงมีโอกาสที่จะเห็นแรงเก็งกำไรได้อีก
โดยหุ้นกลุ่มเหล็กที่ฝ่ายวิจัย Cover อยู่คือ MCS (ราคาเป้าหมาย 21.9 บาท) และ TMT (ราคาเป้าหมาย 11 บาท) ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ส่วนบริษัทเหล็กอื่น ๆ ที่ฝ่ายวิจัยไม่ได้ Cover แนะนำ"เก็งกำไร"ตามราคาเหล็ก