นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้น บมจ. แอดเทค ฮับ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อย่อ "ADD" ว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับ 1 ไฟลิ่งของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทฯ มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และคาดว่าจะนำเสนอขายหลักทรัพย์เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในครึ่งปีแรกนี้
ADD ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการระบบสนับสนุนบริการดิจิทัลคอนเทนต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 80 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 60 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 120 ล้านหุ้น โดยภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 80 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 160 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ในขณะที่ผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 61-63 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 289.48 ล้านบาท 302.04 ล้านบาท และ 345.53 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมย้อนหลังดังกล่าว เท่ากับ 29.29 ล้านบาท 39.50 ล้านบาท และ 72.37 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากบริการระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ประมาณ 83-95% ของรายได้รวม รองลงมาเป็นรายได้จากบริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประมาณ 4-17% ของรายได้รวม และมีรายได้จากบริการสื่อและโฆษณาออนไลน์น้อยกว่า 2% ของรายได้รวม
นายชวัล บุญประกอบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADD กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายงานในส่วนของบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการต่อยอดธุรกิจการพัฒนาระบบด้านการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ และดิจิทัลโซลูชั่น เพื่อสยายปีกสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบสนับสนุนดิจิทัลแพลตฟอร์มทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปัจจุบัน บมจ.แอดเทค ฮับ เป็นผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยกลุ่มบริษัทฯมุ่งเน้นให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Technology) ซึ่งภาพรวมของการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 1. ผู้ให้บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) 2. ผู้ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) และ 3. ผู้ให้บริการสื่อและโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Advertising)
ด้วยศักยภาพความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Software Development) ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในธุรกิจโทรคมนาคมมานานกว่า 20 ปี จึงเป็นการการันตีให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการเติบโตของบริษัทฯในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้เพิ่มบริการพัฒนาระบบชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Carrier Billing) เข้ามาเป็นหนึ่งในช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถชำระเงินค่าบริการผ่านระบบ Carrier Billing โดยไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์ โดยการชำระเงินผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเติมเงิน (Prepaid) และแบบรายเดือน (Postpaid) ซึ่งบริษัทฯจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากรายการที่ผ่านระบบของบริษัท ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกปี 2564 ระบบ Carrier Billing ได้รองรับการซื้อเหรียญดิจิทัลในแอปพลิเคชัน ซึ่งเหรียญดิจิทัลดังกล่าวสามารถนำไปซื้อสินค้าดิจิทัลในแอปพลิเคชันได้หลากหลายประเภท อาทิ เพลงรอสาย ภาพพื้นหลัง สติ๊กเกอร์ สัญลักษณ์แสดงอารมณ์ (Emoji) เป็นต้น