(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: กังวลวิกฤติสินเชื่อ ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 3.58 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 19, 2007 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์สินเชื่อกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะหลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 3.58 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 13,888.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 รูดลง 1.16 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 1,540.08 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 6.64 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 2,799.31 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วนเล็กน้อย ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.03 พันล้านหุ้น
นายเกร็ก เชิร์ช ผู้บริหารจากบริษัทเชิร์ช แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า "มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงเมื่อคืนนี้ อาทิ ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องและราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล"
"ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซาลงทันที หลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกาซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีชื่อเสียงและมีสาขาอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ตัวเลขกำไรไตรมาส 3 ทรุดตัวลงถึง 32% ซึ่งก่อนหน้านี้ซิตี้กรุ๊ป และวอชิงตัน มิวช่วล ได้รายงานผลประกอบการที่ซบเซาลงเช่นกัน" นายเชิร์ชกล่าว
ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มโบรกเกอร์
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในระหว่างตกงาน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมาและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มอ่อนแอลงเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงและความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนต.ค.ปรับตัวลงต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้กำลังอ่อนตัวลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นสวนทางการปิดลบของตลาด โดยหุ้นกูเกิลพุ่งขึ้น 46% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด ขณะที่หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกาดิ่งลง 2.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่าตัวเลขกำไรไตรมาส 3 ร่วงลง 32%
ส่วนหุ้นวอชิงตัน มิวชวล ดิ่งลง 7.7% หลังจากบริษัทรายงานว่าตัวเลขกำไรทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 72% และหุ้นอี-เทรด ไฟแนนเชียล ร่วงลง 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนในตลาดสินเชื่อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ