นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/64 มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย.64 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 3 รายประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ดังกล่าวได้แบ่งเป็น 3 ชุด โดยชุดที่ 1 จำนวน 1,000 ล้านบาท มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.30 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 66 ส่วนชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.73 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 67 และหุ้นกู้ชุดที่ 3 จำนวน 1,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 69 ซึ่งสะท้อนถึงความความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุน ที่มีต่อ WHA
ทั้งนี้เป็นผลมาจากแผนการขยายธุรกิจที่มีความต่อเนื่องและชัดเจน ความมุ่งมั่นในการบริหารงาน ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง การมีวินัยทางการเงิน และการบริหารจัดการฐานะทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตอบโจทย์ความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักลงทุน สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปชำระคืนหนี้เดิม และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน
นอกจากนี้ หุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A- เมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ในธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่า ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 64 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาใน 4 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้การบริการผ่านการผสานรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ตลอดจนอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เตรียมขยายพื้นที่เพิ่มเติมรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเดินหน้าขยายการก่อสร้างเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน ในเฟส 2 และเฟส 3 หลังจากการได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนต่างชาติ พร้อมขยายนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนาม แห่งที่ 2 ในจังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa) ในลำดับต่อไป
ด้านธุรกิจสาธารณูปโภค ยังคงพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เพื่อให้บริการโซลูชันน้ำหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ Wastewater Reclamation และการผลิตน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) สำหรับลูกค้าภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรม และในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าจะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) เร่งเดินหน้าโครงการที่มุ่งเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ การทดสอบระบบ Peer-to-Peer Energy Trading และจะนำมาใช้จริงเมื่อผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ
พร้อมกันนี้ ธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม จะมีการติดตั้งไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ให้แล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมต่อด้านดิจิทัลภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ จะมอบบริการที่ครบวงจรมากขึ้นให้แก่ลูกค้า พร้อมขยายโอกาสจากการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป
บริษัทเตรียมแผนการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ภายในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้
บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการเป็น "Your Ultimate Solution Partner" โดยการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ ผ่านการพัฒนาโซลูชั่นตามแนวคิดการผสมผสานแพลตฟอร์มทางธุรกิจ (Business Platform) เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเดิม (Infrastructure Base) เพื่อต่อยอดทางธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการเร่งเดินหน้าโครงการ Digital Transformation ตามแผนงานที่ได้วางไว้อย่างเต็มรูปแบบ