ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทะยานขึ้นในวันนี้ (26 ต.ค.) หลังจากที่ดัชนีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 30,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น เป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ผลประกอบการของธนาคาร ICBC และปิง อัน อินชัวรันซ์ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มีแรงซื้อหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดทะยานขึ้น 550.73 จุด หรือ 1.8% ปิดที่ 30,405.22 จุด หลังเคลื่อนไหวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวันที่ 30,562.63 จุดในช่วงการซื้อขายเมื่อช่วงบ่าย มีปริมาณการซื้อขาย 2.936 หมื่นล้านหุ้น มูลค่า 1.5739 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นแกนนำที่ทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นในวันนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยดัชนีเพิ่มขึ้น 1,771.10 จุด หรือ 5% ปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 37,039.89 จุด
ส่วนดัชนีไชน่า เอ็นเตอร์ไพรส์ ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังต่อทิศทางของหุ้นจีน เนื่องจากยังคงวิตกกังวลว่าจีนจะใช้มาตรการคุมเข้มสภาพคล่องทางเศรษฐกิจในประเทศต่อไป ดัชนีไชน่า เอ็นเตอร์ไพรส์ ปิดลดลง 2.72 จุด ปิดที่ 19,548.49 จุด
"ตลาดมีทิศทางที่คล่องตัวขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งดูได้จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ฮ่องกงและดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และดัชนีที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 30,000 จุดในวันนี้" นายเบน คว็อก ผู้อำนวยการเคจีไอ ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
นักวิคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวฝ่าระดับ 30,000 จุดในช่วงสิ้นปีนี้ แต่กระแสเงินทุนไหลเข้าจากจีนและแหล่งอื่นๆที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นฮ่องกงคึกคักในช่วงไม่กี่เดือนนี้
นายคว็อกคาดการณ์ว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวสู่ระดับ 32,000-33,000 จุดในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นตลาด
บรรดานักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า เฟดอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ในที่ประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐบาลฮ่องกงปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามไปด้วย
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้อัตราการปล่อยกู้จำนองถูกลง ซึ่งจะปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการซื้อบ้าน และกระตุ้นยอดขายให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ
ยูบีเอส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ชกล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในฮ่องกง อาจเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้ราคาบ้านสูงขึ้น โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลักๆในฮ่องกงได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายบ้านลงที่ระดับ 8,886 ยูนิต จาก 12,088 ยูนิตในปี 2550, 11,099 ยูนิต จาก 13,771 ยูนิตในปี 2551 นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 36 ปี
หุ้นซิโนแลนด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.75 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 12.6% ส่วนหุ้นชวงกง ของมหาเศรษฐีลี กา-ชิง เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 5.2% ขณะที่หุ้นซัน ฮุง ไก ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--