บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) หรือ CPFTH ที่ระดับ "A+" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาทกำหนดไถ่ถอนภายใน 15 ปีของบริษัทที่ระดับ "A+" ด้วยเช่นกัน
โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ดังกล่าวจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทหรือบริษัทในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารดังต่อไปนี้ (1) ประกอบธุรกิจทั่วไป และ/หรือ (2) ขยายธุรกิจ และ/หรือ (3) ลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ และ/หรือ (4) ชำระคืนหนี้ และ/หรือ (5) ให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือเพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร
อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยหลักของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ได้รับการจัดอันดับเครดิต "A+/Stable" จากทริสเรทติ้ง) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการดำเนินงานของบริษัทที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินงานของ CPF และการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ที่บริษัทได้รับจากบริษัทแม่ด้วย
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นจากอานิสงส์ของราคาสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการระบาดที่ยาวนานของโรคอหิวาต์อาฟริกาในสุกร (African Swine Fever:ASF) ในหลายประเทศ กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2563 จากระดับ 3-9 พันล้านบาทในปี 2560-2562 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.3 เท่าในปี 2563 จากระดับ 9-25 เท่าในระหว่างปี 2560-2562 ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10.7% ในปี 2563 จากระดับ 2%-7% ในระหว่างปี 2560-2562
ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ประมาณ 9.2 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนเกือบ 80% เป็นหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาว ส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ระยะสั้นสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า บริษัทมีเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 2564 ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท แหล่งที่มาของเงินสดเพื่อการชำระหนี้จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 7-8 พันล้านต่อปี นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องจำนวนมากจากเงินสดในมือจำนวนประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทและวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีกหลายแห่งด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะบริษัทย่อยหลักที่รับผิดชอบดำเนินธุรกิจสัตว์บกแบบครบวงจรในประเทศไทยของกลุ่มเครือ CPF ต่อไป โดยที่อันดับเครดิตของบริษัทขึ้นอยู่กับสถานะเครดิตของ CPF เป็นสำคัญ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอันดับเครดิตของ CPF ก็จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน