ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,553.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด (+0.01%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,754 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,559.02 จุด และระดับต่ำสุด 1,544.10 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ในช่วงแรกดัชนีฯติดลบไปบ้าง แต่ต่อมาสามารถพลิกขึ้นมาแกว่งในแดนบวกได้ หลังจากภาครัฐฯมีมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และพื้นที่สีแดง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้เริ่มชะลอลงมาบ้าง แม้จะยังอยู่ในระดับสูง ช่วยลดความกังวลไปได้ในระยะสั้น
นอกจากนี้ ตลาดฯ หันไปโฟกัสผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ซึ่งเช้านี้หุ้นที่ขึ้นนำตลาดเป็นหุ้นที่คาดว่างบฯจะออกมาดี อย่างกลุ่มปิโตรเคมี, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ไฟแนนซ์ รวมถึงหุ้น SCC ขณะที่หุ้นที่กดดันตลาดฯเป็นกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากการระงับกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมาตรการคุมเข้มของภาครัฐฯ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวบวกราว 0.5% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกราว 0.1% หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวเลขภาคการผลิต และคาดหวังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ต่างรอดูมุมมองของเฟด ส่วนการปรับขึ้นภาษีฯของสหรัฐฯคงจะมีอัตราไม่มากนัก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศชะลอตัว
พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,083.74 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BFIT มูลค่าการซื้อขาย 1,090.31 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,061.13 ล้านบาท ปิดที่ 83.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
TSTH มูลค่าการซื้อขาย 838.56 ล้านบาท ปิดที่ 1.89 บาท เพิ่มขึ้น 0.43 บาท BCH มูลค่าการซื้อขาย 777.58 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท ลดลง 0.20 บาท