หุ้น OSP และ CBG ราคาไหลลง โดยหุ้น OSP ปิดตลาดที่ 34.25 บาท ลดลง 1.00 บาท (-2.84%) มูลค่าซื้อขาย566.38 ล้านบาท
หุ้น CBG ปิดตลาดที่ 116.00 บาท ลดลง 2.00 บาท (-1.69%) มูลค่าซื้อขาย 659.18 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ จากประเด็นข่าวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.64 รัฐบาลเมียนมาประกาศห้ามนำเข้าสินค้า 5 รายการผ่านด่านการค้าขายชายแดนระหว่างประเทศทางบก โดยให้นำเข้าทางเรือแทน ซึ่งได้แก่ เครื่องดื่มทุกประเภท เช่น น้ำอัดดม, เครื่องดื่มยาชูกำลัง, เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ และชา, กาแฟสำเร็จรูป, นมข้นหวาน และนมข้นจืด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหากรณีที่ในช่วง 2 เดือนแรกปี 64 (ม.ค.-ก.พ.) เมียนมานำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งยังขาดดุลการค้ากับไทยจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ทางประเทศไทยโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ จะหารือกับกรมการค้าของเมียนมาในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อให้เมียนมาทบทวนการออกประกาศนี้
ฝ่ายวิจัยเห็นว่า หากต้องขนส่งทางเรือแทนจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และอาจล่าช้าจากปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้ บมจ.โอสถสภา (OSP) มีสัดส่วนยอดขายในเมียนมาประมาณ 10% ของยอดขายรวม ส่วนใหญ่บริษัทผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง (แบรนด์ Shark ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในเมียนมา) จากโรงงานของตัวเองในเมียนมา ซึ่งเปิดเมื่อครึ่งหลังปี 63 โดยมีการนำเข้าสินค้าเพียงบางส่วน (M-150) พร้อมแนะนำ"ซื้อ"หุ้น OsP ให้ราคาเป้าหมาย 45 บาท
ส่วน CBG มีสัดส่วนยอดขายในเมียนมาประมาณ 10% โดยนำเข้าสินค้าจากไทยไปขาย ทำให้อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว