นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) เปิดเผยว่า การเติบโตของบริษัทในระยะต่อจากนี้จะมีรูปแบบใหม่ๆ และธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมมากขึ้น จะไม่ใช่เพียงการเติบโตที่เกิดจากการจำหน่ายสินค้า IT เท่านั้น จะเห็นได้จากที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน บมจ.เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบริษัทที่มาเชื่อมต่อกับธุรกิจของ SYNEX "โดยการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆเป็นการเรียนรู้ และเราไม่ได้เติบโตจากภายในอย่างเดียว นั่นคือเหตุผลที่เราไปทำดีลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย ซึ่งเราจะมีความเข้มแข็งด้วยแพลตฟอร์ม วันข้างหน้า Service Provider นี่คือคำเริ่มต้นของ SYNEX Group เพื่อที่จะมีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน"นางสาวสุธิดา กล่าว สำหรับภาพรวมธุรกิจของ SYNEX ในปีนี้ได้รับผลกระทบทางด้านบวกจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเป็นตัวเร่งให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาททั้งในชีวิตประจำวันและการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีก็จะมีบทบาทเข้ามามากขึ้นอีก อาทิ เทคโนโลยีด้าน AI และ Data analytics ที่จะมีผลต่อการใช่ชีวิตมากกว่านี้
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา สินค้าด้าน IT เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ยังมีผลกระทบจากสินค้าที่ออกมาอย่างจำกัดจากช่วงที่มีการล็อกดาวน์หลายโรงงานต้องหยุดการผลิตไป ทำให้ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขาดแคลน แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน ตลาด e-Commerce ก็มีการเติบโตค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าด้าน IT จะมีความแตกต่างจากการซื้อสินค้าด้านอื่นๆ ที่จะต้องมั่นใจว่าสินค้านั้นคือของแท้ มีการรับประกันจากทางร้าน ซึ่งสินค้าของบริษัทจะมีตราของบริษัทติดอยู่ที่รับกระกันว่าเป็นของแท้และจะมีการรับประกันหลังการขายสินค้าด้วย ขณะที่ตลาดเกมส์ ถือว่ามีทิศทางเติบโตค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีการแข่งขัน e-Sport เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และยกระดับการแข่งขันไปในระดับโลก เข้าไปถึงกีฬาโอลิมปิกแล้ว หลายมหาวิทยาลัยมีการเปิดสอนเทคโนโลยีด้านเกมส์โดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันถือว่าบริษัทเป็นผู้ที่มีผลิตภัณฑ์ด้านเกมส์มากที่สุดของประเทศไทย "เข้ามาบริหารงานได้เป็นระยะเวลา 8 ปี แล้ว ได้มีการเรียนรู้หลายเรื่อง และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญของวัฒนธรรมองค์กรโดยทันที คือมีเชื่ออย่างหนึ่งว่าการทำงานร่วมกันต้องอาสัยความไว้วางใจ และเชื่อว่ากลยุทธ์ต่างๆ ที่วางไว้จะทำให้องค์กรเติบโตไปด้วยกัน ทำให้จากวันนั้นที่เราเข้ามาเป็น CEO รายได้เราอยู่ที่ราว 18,000 ล้านบาท บริษัทเคยเติบโตไปถึง 38,000 ล้านบาท มองว่าการเติบโตมาถึงจุดนี้ได้คือความไว้วางใจ ความเชื่อในสิ่งที่เราจะเติบโตไปด้วยกัน"นางสาวสุธิดา กล่าว