นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ.ในไตรมาส 1/64 ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาขายที่เริ่มฟื้นตัวตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และยังมีความสำเร็จหลายประการที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ ทั้งการซื้อสัดส่วนการลงทุนในแปลง 61 ประเทศโอมานที่เสร็จสมบูรณ์ และการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย-แปลงเอช เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้
ดังนั้น ทำให้เราสามารถเพิ่มปริมาณการขายได้ทันที และส่งผลให้สามารถปรับเพิ่มเป้าหมายการขายในปีนี้ขึ้นเป็น 405,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากเดิมที่ตั้งไว้ 398,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้รวม 1,779 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 54,034 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับ 1,348 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 40,494 ล้านบาท) ในไตรมาส 4/63 มาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,391 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 42,136 ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่สูงขึ้น 10% มาอยู่ที่ 40.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ เนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับ ไตรมาส 1/64 บริษัทมีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-recurring item) เพิ่มขึ้นจากการซื้อสัดส่วนการลงทุนราว 20% ในโครงการโอมาน แปลง 61 ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จำนวน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 10,772 ล้านบาท) อีกทั้งในในไตรมาส 1/64 บริษัทมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 382,877 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 4/63 ที่มีปริมาณ 381,285 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 1,213 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 36,764 ล้านบาท) ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 4/63 แม้ว่าในไตรมาส 1/64 บริษัทจะมีรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) และค่าใช้จ่ายในการบริหาร (General & Administrative Expenses) ลดลง แต่บริษัทมีการบันทึกรายจ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานปกติจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์โครงการสำรวจในประเทศบราซิล จำนวน 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และผลขาดทุนจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ PTTEP มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/64 จำนวน 376 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 11,534 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 364% เมื่อเทียบกับ 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่า 2,433 ล้านบาท) ในไตรมาส 4/63 และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่ 74% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ลงมาอยู่ที่ 27.96 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ
ด้านการสำรวจปิโตรเลียม ค้นพบแหล่งปิโตรเลียมใหม่ๆจากการเจาะหลุมสำรวจในมาเลเซียหลายแปลง เช่น หลุมโดกง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 417 และหลุมซีรุง-1 ในโครงการซาราวัก เอสเค 405 บี โดยยังมีแผนการเจาะสำรวจเพื่อค้นหาแหล่งน้ำมันและก๊าซฯในแปลงอื่นๆ ส่วนด้านแหล่งลัง เลอบาห์ ในโครงการซาราวัก เอสเค 410 บี ซึ่งบริษัทค้นพบก๊าซธรรมชาติปริมาณสูงในปีที่แล้ว เมื่อทำการเจาะหลุมประเมินผลในปีนี้ พบว่ามีปริมาณก๊าซฯมากกว่าที่บริษัทคาดไว้ ถือว่าว่าเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยสำรวจพบ โดยความสำเร็จที่เกิดขั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับ PTTEP ในอนาคตแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างฐานการลงทุนของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอีกด้วย