หุ้น ASW ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท (+0.31%) จากราคาขาย IPO ที่ 9.82 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 4,214.27 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 11.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.85 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองว่า บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) มีแนวโน้มที่ดีจากงานรอโอนในปีนี้กว่า 5,000 พันล้านบาท และมีโครงการที่รอการเปิดตัวอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ซึ่งยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน และประมาณการมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นไว้ที่ 11-12 บาท หรือคือมี Forward P/E ที่ 7.05 เท่าเทียบกับ กลุ่มบริษัทที่มีการดำเนินงานธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 10 เท่า ทำให้ราคา IPO ของ ASW ยังคงมีอัพไซด์แต่อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงคือการยกเลิกการจองและยอดโอนที่ต่ำกว่าคาด
ASW มีลักษณะเป็นบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจโดยการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นหลักครอบ ซึ่งสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจตามลักษณะได้ดังนี้ ธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ โครงการอาคารชุดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมทั้ง Low Rise ที่เน้นกลุ่มลูกค้าวัยทำงานรายได้ระดับกลางเช่นโครงการ Atmoz, Wynn หรือเน้นกลุ่มนักศึกษาอย่างโครงการ Kave และ คอนโดมิเนียมแบบ High Rise ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางบน-บน อย่าง Modiz และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่าง The Honor, Glam
ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า เช่น ให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานขาย และให้เช่าพื้นที่ภายใน Community mall และธุรกิจรับฝากขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้บริการรับฝากขายและฝากเช่าสำหรับทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัทผ่านทาง website แก่ลูกค้าของกลุ่มบริษัทที่ต้องการขายหรือปล่อยเช่า รวมถึงธุรกิจตัวกลางในการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศ
โครงการในอนาคตของบริษัท 1.โครงการคอนโดมิเนียมแบบ High Rise ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 10,692 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ โดยคาดจะเริ่มขายช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2564 - ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567-2568, 2.โครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 5 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,423 ล้านบาท ซึ่งคาดจะเริ่มเปิดขายช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2564 - ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567-2568, 3.โครงการแนวราบในลักษณะโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 7.45 ตารางเมตร มูลค่ารวม 87 ล้านบาท ซึ่งคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดขายช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2564, 4. คอมมูนิตี้ มาร์เก็ตพื้นที่เช่า 1,240 ตรม. บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต คาดว่าเปิดบริการไตรมาสที่ 3 ของปีนี้