หุ้น SCC ราคาวิ่งขึ้น 2.65% มาอยู่ที่ 464 บาท เพิ่มขึ้น 12 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,368.27 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.43 น. โดยเปิดตลาดที่ 460 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 466 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 456บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์นแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ. ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) กำไรไตรมาส 1/64 ที่ประกาศออกมา ถือว่าดีกว่าตลาดคาดมาก โดยเฉพาะแนวโน้มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ฟื้นตัว และสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่สูงขึ้น พร้อมมองว่ากำไรในช่วงที่เหลือของปีจะดีต่อเนื่องด้วยแรงหนุนจากสเปรดปิโตรเคมีที่พุ่งขึ้นอีกตามอุปทานตึงตัว (Q2/64TD : HDPE-แนฟทา +24%QoQ, PP-แนฟทา +6%QoQ)
และจาก SCGP ประกาศถึงแผนการศึกษาการทำ IPO SCG Chemicals ถือเป็นประเด็นบวกใหม่ที่คาดจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ SCC ในระยะถัดไป แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ SCC ยังคงมีปัจจัยหนุนทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ทำให้ยังแนะนำ"ซื้อ" ทั้งนี้ จะปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายใหม่อีกครั้ง ภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์ในเช้าวันนี้
SCC รายงานกำไรไตรมาส 1/64 สูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาท (+85%QoQ, +114%YoY) และ EBITDA 2.3 หมื่นล้านบาท (+40%QoQ, +68%YoY) ดีกว่าตลาดคาดมาก และโดดเด่นในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ได้อานิสงส์จากตลาดโดยรวมในประเทศขยายตัว +3% จากความต้องการของภาครัฐ (+6%) และความต้องการงานปรับปรุงซ่อมแซมบ้านสูงขึ้น และธุรกิจเคมิคอลส์ ได้แรงหนุนจากปริมาณขายสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนปิดซ่อมบำรุงและการเริ่มผลิตโครงการ MOC Debottleneck เร็วกว่ากำหนด 1 ไตรมาส ร่วมกับราคาขายผลิตภัณฑ์ (PP, PVC) เพิ่มขึ้นมากกว่าต้นทุนแนฟทา ทำให้สเปรดกว้างขึ้น และมีกำไรจากสต๊อก รวมถึงธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) จากยอดขายเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic อัตรากำไรสูงขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนการเงินลดลงมาก
นอกจากนี้ SCC ได้แจ้ง SET ว่าอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจเคมิคอลส์ รวมถึงการเสนอขายหุ้น SCG Chemicals ต่อประชาชนทั่วไป เพื่อรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งคาดว่าการศึกษาและการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565