นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐฯ ขนาดกำลังการผลิตตั้งแต่ 1,000-1,600 เมกะวัตต์ โดยคาดจะสามารถประกาศความชัดเจนการลงทุนดังกล่าวได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/64 หรือต้นไตรมาส 3/64 ซึ่งบริษัทคาดหวังจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 25-30% ของเงินลงทุนทั้งหมด เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้เกิด Synergy กับบริษัทแม่ หรือ บมจ.บ้านปู (BANPU) ที่ถือหุ้นในแหล่งก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) จำนวน 2 แหล่งในสหรัฐฯ ได้แก่ แหล่งบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเทกซัส และแหล่งมาร์เซลลัส (Marcellus) ในรัฐเพนซิลเวเนีย
บริษัทวางงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการลงทุนต่างๆ โดยใช้ไปแล้วราว 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.5 พันล้านบาทในการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้า Nakoso Integrated Gasification Combined Cycle (Nakoso IGCC) ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 543 เมกะวัตต์ (คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 72.8 เมกะวัตต์) ผ่านบริษัท Banpu Power Investment Co.,Ltd (BPIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ซึ่งได้ลงนามในสัญญาเพื่อการลงทุนในบริษัท Nakoso IGCC Management Co., Ltd (NIMCO) สัดส่วน 33.5% โดยบริษัท NIMCO ถือหุ้น 40% ในโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC
โครงการโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC จังหวัดฟุกุชิมะ ถือเป็นโรงไฟฟ้า IGCC ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง และลดการปล่อยมลภาวะอยู่ในระดับต่ำ (HELE) มีเสถียรภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงผ่านระบบสายส่งของประเทศตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาว โดยเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการแปลงสถานะถ่านหินให้เป็นก๊าซกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซเข้าด้วยกัน ซึ่งเริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้ววันที่ 16 เม.ย.64 บริษัทคาดว่าจะเริ่มบันทึกกำไรตามสัดส่วนการลงทุนเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป และคาดโครงการดังกล่าวจะสร้างกำไรให้กับบริษัทได้ไม่น้อยกว่า 220-250 ล้านบาทต่อปี
นายกิรณ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานสะอาด (Green Energy) เนื่องด้วยภาครัฐ ประเทศญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนด้านพลังงานอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มีความสนใจในการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Plant) ในประเทศจีน เป็นต้น
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 บริษัทคาดว่าจะสามารถ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Vinh Chau phase (หวินเจา) ระยะ 1 ขนาด 30 เมกะวัตต์ และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC เข้ามา ส่วนครึ่งปีหลังนี้บริษัทมีแผนจะ COD อีก 2 โครงการใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 30 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคเซนนุมะ (Kessenuma) COD ในไตรมาส 3/64 และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ (Shirakawa) COD ในไตรมาส 4/64
"บริษัทยังคงเดินหน้าในการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 68 โดยมองหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล"นายกิรณ กล่าว