นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งซิกแซกขึ้น และมีลุ้นทดสอบระดับ 1,600 จุด ได้ Sentiment ดีจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี S&P500 ขึ้นทำสถิติสูงสุด และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ด้วย อันเป็นผลจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สหรัฐไตรมาส 1/64 ขยายตัว 6.4% ดีกว่าที่ตลาดคาดจะขยายตัว 6.1% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรว่างงานก็ลดลงด้วย
ส่วนบ้านเราได้แรงหนุนจาก Fund Flow ซื้อต่อเนื่องมา 2 วันติดต่อกันทำให้เป็นสัญญาณที่ดี แต่เมื่อดัชนีฯเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุดต้องระวังแรงขายทำกำไรระหว่างทาง เพราะบ้านเราจะเขาวันหยุดยาว 4 วัน นอกจากนี้ให้ติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศวันนี้ด้วย หากจำนวนยังมากกว่า 2 พันรายต่อวันก็อาจเผชิญแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงบ้าง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะทรงตัวในแดนลบเล็กน้อยราว 0.2% ช่วงรอติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของจีน รวมทั้ง GDP ไตรมาส 1/64 ของยุโรป อีกทั้งติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงภาวะเศรษฐกิจรายเดือน
พร้อมให้แนวรับ 1,583-1,584 ถัดไป 1,575-1,576 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,606 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,060.36 จุด เพิ่มขึ้น 239.98 จุด (+0.71%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,211.47 จุด เพิ่มขึ้น 28.29 จุด (+0.68%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,082.55 จุด เพิ่มขึ้น 31.52 จุด (+0.22%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.60 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 57.31 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 159.83 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 เม.ย.)1,590.46 จุด เพิ่มขึ้น 13.67 จุด (+0.87%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 690.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 เม.ย.) ปิด 65.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 เม.ย.) อยู่ที่ 3.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.18/19 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ แม้ดอลล์แข็งค่า จับตา Flow สิ้นเดือน
- คลังปรับลดประมาณการจีดีพีปี 64 ขยายตัวเพียง 2.3% ต่อปี จากเดิมคาดการณ์ไว้ 2.8% เซ่นพิษโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ฉุดนักท่องเที่ยวหดเหลือ 2 ล้านคน รายได้เหลือ 1.7 แสนล้าน ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่ม ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น
- สมาคมวินาศภัยคาดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มต่อเนื่อง ชี้หากยอดสะสมเกินแสนราย ดันยอดเคลมประกันแตะพันล้าน จากปัจจุบัน 200 ล้าน ขณะยอดขายประกันโตเฉลี่ยวันละ 1 แสนกรมธรรม์ พร้อมเจรจาสมาคมโรงพยาบาลปรับลดค่ารักษาพยาบาล
- ซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินโควิดระลอก 3 ฉุดเศรษฐกิจไทยโตถดถอยทางเทคนิค แต่ไม่แย่มาก เพราะยังมีส่งออก-เกษตรพยุง ชี้ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเร่งฉีดวัคซีน คาดจีดีพี 64 โต 2.2%
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาที่ดินเปล่าในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรก และมีสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน เห็นได้จากดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาไตรมาส 1 มีค่าเท่ากับ 326.2 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 11.2% จากปีก่อน ซึ่งน้อยกว่าราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่มีการปรับขึ้นเฉลี่ย 17.7% ต่อไตรมาส นอกจากนี้เมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้วยังพบว่าราคาที่ดินปรับตัวลดลง 2.2% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกรอบ 9 ปี นับตั้งแต่เริ่มจัดทำดัชนีราคาที่ดินเปล่าของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ในปี 55
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 48 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/64 โตแรงตามลูก (PTTEP PTTGC TOP IRPC) เบื้องต้นคาดพลิกมีกำไร 2.5 หมื่นล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1,154 ล้านบาทใน Q1/63
- SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 520 บาท กำไร Q1/64 สูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส แนวโน้ม Q2/64 จะดีขึ้นอีก จากสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีที่ปรับขึ้นต่อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการขยายกำลังการผลิต คาดจะหนุนผลประกอบการปีนี้เติบโตได้ดี พร้อมปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอีก ในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่เฟสของการเติบโต แรงหนุนจากทั้งสามธุรกิจ คือ ธุรกิจปิโตรเคมี กำลังการผลิตจะเพิ่ม 70% ธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เน้นเซอร์วิสและโซลูชั่น ไปรีเทล ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ตั้งเป้าจะโตเป็น 2 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า
- COM7 (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 78 บาท เก็งงบ Q1/64 สวย และ Outlook ปี 64 เติบโตโดดเด่น ประเมินสินค้าไอทีในไตรมาส 1 ขายดี หนุนด้วยยอด Iphone12 และการเปิดสาขาใหม่ 100 สาขา จึงคาดกำไรปกติของ COM7 ใน Q1/64 ที่ 463 ลบ. +61%YoY, -17%QoQ และ Outlook ในช่วงที่เหลือของปีก็ดีต่อเนื่อง พร้อมประเมินกำไรสุทธิ ปี 2564-2565 ที่ 1.9 พันลบ. และ 2.4 พันลบ. +26%YoY, +27%YoY ตามลำดับ