นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง (CK) เปิดเผยว่า ในปี 64 นี้เชื่อว่ารัฐบาลจะผลักดันโครงการขนาดใหญ่ออกมาต่อเนื่องเพื่อเป็นกลไกฟื้นฟูเศรษฐกิจ และมีงานประมูลต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จนถึงปีหน้า ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ รถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยาย รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์สายต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท บริษัทฯพร้อมเข้าประมูลทุกโครงการและหลายโครงการบริษัทก็มีศักยภาพ
ในปี 64 บริษัทเตรียมเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟทางคู่ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ซึ่งเป็นโครงการของบมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) บริษัทย่อย อยู่ระหว่างการเจรจาสัญญากับรัฐบาลลาวอยู่คาดจะสรุปผลได้ภายในปีนี้ ระยะเวลาก่อสร้างยาว 8 ปี
ดังนั้น บริษัทมั่นใจว่า งานในมือ (Backlog ) จะกลับมาเกินกว่า 1 แสนล้านบาทในปี 64 จาก Backlog ที่มีอยู่ราว 3 หมื่นล้านบาท ได้แก่ งานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี 3 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท โครงการทางพิเศษพระราม 3 -ดาวคะนอง สัญญาที่ 4 มูลค่า 6.2 พันล้านบาท โครงการอาคารศูนย์บูรณาการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่างาน 2,019 ล้านบาท โครงการอาคารศูนย์การเรียนรู้และวิจัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ 3,777 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ CK กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทมี Backlog ลดลง เนื่องจากงานภาครัฐมีความล่าช้าในการประมูลโครงการขนาดใหญ่ และเศรษฐกิจซบเซา และทำให้รายได้จากงานก่อสร้างลดลง เพราะรับผลกระทบโควิด-19 ระบาด โดยในปี 63 บริษัทได้โครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,247 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ลงทุนใน CKP , บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) ทำให้มีรายได้จากการลงทุนและส่วนแบ่งกำไรเข้ามา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ทำให้บริษัทรับผลกระทบไม่มากจากงานที่ลดลง และผลกระทบโควิด โดย TTW และ CKP ไม่ได้รับผลกระทบโควิด
สำหรับกรณที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น นางสาวสุภามาส กล่าวว่า จากงานในมือที่ลดลง ทำให้บริษัทไม่ต้องเผชิญกับต้นทุนกระโดดขึ้น และบริษัทฯสามารถคุมต้นทุนได้อย่างดีในโครงการที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งเป็นงานที่ยังมีกำไรดีอยู่ ขณะที่งานโครงการใหม่ บริษัทฯจะไม่ประมูลแข่งขันกดราคา บริษัทเลือกงานที่มั่นใจว่าบริหารต้นทุนได้อย่างดี โดยบริษัทมีนโยบายกำหนดอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 8%