บริษัทจะซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจากอัลไพน์และแคปปิตอล ซึ่งหมายถึง ทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบทั้งหมดของอัลไพน์และแคปปิตอลที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคต ณ วันโอนกิจการ ทั้งนี้ อัลไพน์และแคปปิตอลไม่มีหนี้สินใดๆ และมีทรัพย์สินอย่างเดียว คือ หุ้นสามัญของ N15 จำนวน 200,000 หุ้น และ 199,998 หุ้น ณ วันที่มีการรับโอนหุ้นสามัญของ N15 โดยเริ่มรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 2/64
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ SKE จำนวน 93 ล้านบาท เป็นจำนวน 558 ล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียนจำนวน 465 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 186 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยให้จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) อัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ กำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในช่วงวันที่ 24, 25, 27, 28 และ 31 พ.ค. 64
สำหรับผลประกอบการประจำปี 63 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.63 กลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.22 ล้านบาท โตขึ้น 48.67% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 533.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.41% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการประจำปี 63 เพิ่มขึ้นมาหลังจากโรงไฟฟ้าแม่กระทิงจ่ายไฟเข้าระบบ ทางด้านกำไรขั้นต้น กลุ่มบริษัทมีกำไรขั้นต้น 149.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.98 ล้านบาท คิดเป็น 35.38% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นประจำปี 63 และ 62 อยู่ที่ 29.16% และ 30.83% ตามลำดับ