(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 120.80 จุด ขานรับรายงานประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 10, 2007 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 120 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนตีความรายงานการประชุมประจำวันที่ 18 ก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า เฟดพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 120.80 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 14,164.53 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 12.57 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,565.15 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 16.54 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 2,803.91 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.19 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 11 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.89 พันล้านหุ้น
รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์สินเชื่อตึงตัวและปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดกังวลว่าการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงจะส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดยังส่งสัญญาณว่า เฟดพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาด และระบุว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังไร้ทิศทางเพราะผลพวงจากวิกฤตการณ์สินเชื่อในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
"รายงานการประชุมเฟดทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ตีความว่า เฟดพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะการประชุมเฟดครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 นี้ จะเป็นการประชุมที่นักลงทุนจับตาดูมากเป็นพิเศษ" นายสตีเฟล นิโคเลาส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทริชาร์ด คริปส์ กล่าว
อีกปัจจัยหนึ่งที่ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกคือการแสดงความคิดเห็นของนายวิลเลียม โพลล์ ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ระบุว่า "ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปราะบางอันเป็นผลมาจากภาวะสินเชื่อตึงตัว"
ทั้งนี้ หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้น 3% แต่ก็ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นยัม แบรนด์ ดีดขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ส่วนหุ้นกูเกิลปิดพุ่งขึ้น 5.57% แตะที่ระดับ 615.18 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 600 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ขณะที่หุ้นเอสเอบีมิลเลอร์ พุ่งขึ้น 1.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ