นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำบริษัท โนเบิล เวนเจอร์ อินเวสเมนท์ จำกัด (Noble Venture Investment Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ NOBLE ถือหุ้นอยู่ 100% เพื่อลงทุนและการขยายกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ไปยังต่างประเทศ ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ฟัลครัม-โกลบอล แคปิตอล อินเวสเมนท์ (Fulcrum Global Investments) หรือ Fulcrum ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ NOBLE เพื่อลงทุนโครงการในต่างประเทศแห่งแรกในสหราชอาณาจักร
โดย NOBLE จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ผ่านบริษัทย่อยในสัดส่วน 45% และ Fulcrum ลงทุนในสัดส่วน 55% ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นกับ Fulcrum ซึ่งมีนายแฟรงค์ เหลียง เป็นเจ้าของ โดยนายแฟรงค์ยังถือหุ้นใน NOBLE สัดส่วนประมาณ 20%
ทั้งนี้เป้าหมายของการลงทุนในสหราชอาณาจักรจะเป็นรูปแบบโครงการที่ได้รับอนุญาตในการพัฒนาโครงการในเมืองใหญ่ ๆ ที่ถูกสร้างและมีผู้เช่าแล้ว เนื่องจากปัญหากำลังซื้อที่อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักร ทางรัฐบาลได้มีการสนับสนุนในการปรับปรุงโครงการประเภทอาคารสำนักงาน หรืออาคารเชิงพาณิชย์ เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน ดังนั้นทาง NOBLE และ Fulcrum จึงได้เห็นโอกาสดังกล่าวและได้มีการระบุการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการปรับปรุงดังกล่าว โดยมีการขายผ่านเครือข่ายกลุ่มลูกค้าที่แข็งแกร่งของบริษัทฯในแถบเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าพื้นฐานความต้องการสำหรับนักลงทุนชาวจีนและฮ่องกงในการกระจายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ออกนอกประเทศบ้านเกิดนั้นมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการลงทุนไม่สูงมาก และให้ผลตอบแทนสูง
"การต่อยอดด้านการลงทุนของ NOBLE ในสหราชอาณาจักร ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงนโยบายกระจายความเสี่ยงด้วยการเพิ่มความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ โดยเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ร่วมกับ Fulcrum ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ด้วยความเชี่ยวชาญของ Fulcrum ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน จะเป็นการตอกย้ำความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยเราจะเน้นการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อขยายธุรกิจนอกประเทศไทย และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น" นายธงชัย กล่าว
นายธงชัย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้จะมีกำไรจากการลงทุนในต่างประเทศในสัดส่วนที่ 25% ของกำไรสุทธิรวม ซึ่งในปีแรกคาดจะใช้งบลงทุน 25 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท (NOBLE จะลงทุนประมาณ 450 ล้านบาทตามสัดส่วน) และเพิ่มการลงทุนภายในปี 67 เป็นจำนวน 60 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจราเข้าซื้อโครงการแรกในเมืองแมนเชสเตอร์ ( Manchester) โดยคาดมีความชัดเจนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยรายได้จากการปล่อยเช่าและรายได้จากการทยอยขายสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายการถือครองสินทรัพย์ในแต่ละสินทรัพย์ประมาณ 2-3 ปี โดยคาดจะมีอัตราผลประโยชน์ที่มีต่อผู้ถือหุ้น (EIRR: Equity Internal Rate of Return) ที่ประมาณ 18-20%