นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เชื่อสถานการร์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้มากนัก เนื่องจาก ZEN มีการให้บริการดิลิเวอรี่และนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ก็เชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะกลับมาใช้บริการนั่งทานในร้านอาหารเครือเซ็นกรุ๊ปเช่นเดิม
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 28.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 605.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 643.7 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานของเซ็นกรุ๊ปที่มีกำไรฟื้นตัว เป็นผลจากบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา โดยมุ่งนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด การขยายสาขาภายใต้โมเดลแฟรนไชส์ การมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเดลิเวอรี่และแพลตฟอร์มออนไลน์
ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เซ็น เรสเตอร์รอง มุ่งสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า โดยจัดแคมเปญ ZEN Premium Buffet ในราคาคนละ 599 บาท เป็น Value Promotion ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม สามารถเพิ่มยอดขายร้านอาหารญี่ปุ่น ZEN เติบโตจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 20% และได้จัดแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขาย ส่วนร้าน เขียง สามารถขยายสาขาแฟรนไชส์ได้อย่างรวดเร็วและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการเดลิเวอรี่ เนื่องจากลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน
ส่วนธุรกิจรีเทลหรืออาหารค้าปลีกมียอดขายเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งซื้ออาหารกลับไปรับประทานหรือปรุงเองที่บ้าน ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท เค.เอส.เอฟ. ฟู้ดส์ โปรดักส์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด (ZEN and Kosum Interfoods Co.,Ltd) เพื่อต่อยอดขยายธุรกิจอาหารค้าปลีก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรุงรสเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเติบโตจากการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์อื่นๆ ในเครือเซ็น กรุ๊ป อาทิ เขียง, อากะ โดยได้ขยายร้านเขียงในรูปแบบโมเดลแฟรนไชส์ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 10 สาขา และวางแผนเปิดเพิ่มอีก 15-20 สาขา ในช่วงไตรมาส 2/64