นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ. สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้รวม 123.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 117.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.08% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท
ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาของโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐ โครงการก่อสร้างภาคเอกชน ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียระหว่างการผลิต อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลาย และมีการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ Online to Offline เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น 107 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/64 บริษัทมุ่งเน้นรักษาการเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอก 3 และการเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติส่งผลให้หน้างานชะลอ ขณะที่งานภาครัฐยังคงดำเนินงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านกลุ่มโมเดิร์นเทรดและออนไลน์ทดแทน เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากงานในส่วนภาคเอกชนโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ แนวสูง นิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้าในเขตพื้นที่ EEC ส่วนงานภาครัฐ บริษัทยังคงได้รับงานโครงการเมกะโปรเจคและงานขนาดกลางที่มีการลงทุน
ขณะที่ตลาดต่างประเทศในกลุ่ม AEC ปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากดีลเลอร์ในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาวต่อเนื่อง โดยนำสินค้าเข้าไปใช้กับงานโครงการต่างๆ และนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่ก็ได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการแพร่ระบาดโควิด 19 โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างน้อย 5% โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 40% ภาคเอกชน 59% และต่างประเทศ 1% ขณะที่สัดส่วนรายได้แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา 94 % อิฐมวลเบาตกแต่ง 5 % และอื่นๆ 1 %