นางสาวรุ่งทิพย์ มีแม่นวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคลวาทิส-เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (CVT) กลุ่มบริษัทในเครือ บมจ. พีรพัฒน์ เทคโนโลยี (PRAPAT) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ในการทำความสะอาดด้านสุขอนามัยสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มทุกประเภท เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 ว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายอยู่ที่ 10% หรือประมาณ 220 ล้านบาท หลังจากไตรมาสแรกเติบโตแล้ว 12% ส่วนใหญ่เติบโตจากฐานลูกค้าในภาคใต้ และภาคกลาง รวมทั้งลูกค้าในกลุ่มพร้อมรับประทาน (Ready to eat) โดยบริษัทวางเป้าหมายขยายฐานลูกค้าใหม่ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 65 ราย
ส่วนในปี 63 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตกว่า 14% หรือ ประมาณ 208 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากการที่บริษัทฯ เร่งทำการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง นับแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เมื่อปลายปี 62 โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว ทำให้ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 56 ราย
แม้ในปีนี้ ประเทศไทยจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขึ้นอีกระลอก และรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าจัดงบลงทุน สำหรับการส่งเสริมการขายและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบลงทุนสำหรับการทำส่งเสริมการตลาดอยู่ที่ 3% ของยอดขาย และงบลงทุนขยายตลาดที่ 30 ล้านบาท โดยจะเน้นกลุ่มเบฟเวอร์เรจส์ หรือกลุ่มเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น เพราะมีแนวโน้มเติบโตจากกระแสของกัญชงและกัญชา รวมถึงเครื่องดื่มสุขภาพอย่าง น้ำมะพร้าว เป็นต้น โดยยังคงช่องทางจัดจำหน่ายเดิม คือ ช่องทางการขายตรง (Direct Sales)
สำหรับการทำตลาดในประเทศจะเน้นเจาะตลาดต่างจังหวัดทุกภาคของประเทศไทย ที่มีทีมขายประจำอยู่ ส่วนตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท Calvatis GmbH ที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ PRAPAT เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่ม AEC เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เป็นตลาดในกลุ่ม CLMV ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีโอกาสทำตลาดกับแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับไฮเอนด์ในต่างประเทศมากขึ้น อาทิ ประเทศเวียดนาม, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
"จุดแข็งของเรา คือ การบริการหลังการขาย ที่มีทีมงานขายที่แข็งแกร่ง สามารถเทรนลูกค้าด้านสุขอนามัย ในกระบวนการผลิตอาหาร รวมถึงมาตรฐานต่างๆในกระบวนการผลิตอาหาร เพื่อให้อาหารมีความปลอดภัย รวมทั้งทีมฝ่ายขาย ทีมช่าง และทีมเทคนิค ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยปีนี้ เราวางแผนที่จะพัฒนาสินค้าชนิดใหม่เข้าทำตลาดจำนวน 6 รายการในกลุ่มฆ่าเชื้อ เพื่อทำตลาดมากขึ้นด้วย"นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำ CSR เพื่อคืนกำไรให้กับสังคม หรือกับลูกค้าบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดกิจกรรมฉีดพ่นฆ่าเชื้อให้กับลูกค้าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงการให้ความรู้ต่างๆกับลูกค้า ตั้งแต่ต้นทางไลน์การผลิตไปจนถึงกระบวนการส่งมอบ เป็นต้น
"ความท้าทายของการทำธุรกิจ คือ เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิตอาหารอย่างปลอดภัยส่งต่อไปยังผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก สินค้าของเราทุกชนิดได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข, กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ NSF (National Sanitation Foundation) ทำให้สามารถใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้" นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าว