ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 111,864.85 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,596.80 จุด และระดับต่ำสุด 1,576.79 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 573 หลักทรัพย์ ลดลง 999 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 488 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวในแดนบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาดี โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ได้ปัจจัยบวกจากกระแสหุ้น TIDLOR เทรดวันแรก รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนอีกแรงหลังราคาน้ำมันและค่าการกลั่นปรับขึ้น ชดเชยหุ้นที่อ่อนแออย่าง Domestic plays จากความกังวลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศยังหนัก และคาดว่างบฯน่าจะออกมาไม่ดีนัก นักลงทุนจึงพักไว้ก่อนแล้วหันไปซื้อขายกลุ่ม Global plays เป็นส่วนใหญ่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้สดใสตามตลาดสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดยุโรปพักตัวเล็กน้อยหลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วเร่งตัวขึ้น และยุโรปก็อยู่ในช่วงรอติดตามผลประกอบการเช่นกัน
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราช่วงนี้คงจะยังไปไหนไม่ไกล เพราะต้องรอการทยอยประกาศผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายสัปดาห์นี้ และรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ อย่าง เงินเฟ้อของจีนและสหรัฐฯที่กำลังจะออกมา ซึ่งจะเชื่อมโยงทิศทางอัตราดอกเบี้ยด้วย และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งออกด้านข้าง พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,605 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 33,217.25 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 9.25 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,457.80 ล้านบาท ปิดที่ 456.00 บาท เพิ่มขึ้น 54.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,229.87 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
TU มูลค่าการซื้อขาย 2,064.67 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
OR มูลค่าการซื้อขาย 1,626.90 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 0.50 บาท