นาย Vikash Jalan รองประธานด้านกลยุทธ์ การวางแผน และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่า แนวโน้มของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 คาดว่าจะเห็นทิศทางการเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก หลังจากความต้องการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัททั้ง PET IOD และ Gasoline ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่และเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป และจีน มีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง และเริ่มกลับมาเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับมาฟื้นขึ้นอีกครั้งหลังจากชะลอตัวลงไปมากในช่วงปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันซัพพลายใหม่ของ PET จากจีนยังไม่มีออกมา ทำให้การแข่งขันในตลาดไม่สูง และไม่ถูกกระทบด้านราคาขาย หนุนให้ราคาขาย PET ยังอยู่ในระดับที่ดี
บริษัทมองว่าตลาดในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ยังเป็นตลาดที่จะผลักดันผลงานตั้งแต่ไตรมาส 2/64 ให้กลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ส่วนตลาดในภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบในบางประเทศ โดยเฉพาะในอินเดียและอินโดนีเซียที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงมาก แต่ถือว่ามีสัดส่วนรายได้ที่ไม่มาก เช่น อินเดียมีสัดส่วนรายได้เพียง 6% เท่านั้น ทำให้ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นน้อย
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปี 64 จะทำได้ตามเป้าหมายเติบโต 25% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 1.25-1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ทิศทางของอัตรากำไรยังอยู่ในระดับที่ดี จากการที่ได้รับอานิสงส์ของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งทำให้ส่วนต่างราคาขายผลิตภัณฑ์ (สเปรด) อยู่ในระดับสูง และส่งผลดีอย่างมากกับธุรกิจผลิต IOD ในสหรัฐฯ ที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น จากที่ระดับราคา Shell Gas ในปัจจุบันปรับขึ้นมาที่ 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล แต่บริษัทได้ล็อกราคาต้นทุนไว้ที่ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
ด้านแผนการลงทุนในปี 64 ตั้งบลงทุนรวมไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบ่งเป็น เงินลงทุน 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ใช้สำหรับการปรับปรุงโรงงานและเครื่องจักรในโรงงานเดิมของบริษัท และอีก 650-700 ดอลลาร์สหรัฐฯจะนำไว้ใช้ในการลงทุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการ Recycling และโครงการ Olympus เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัท