น.ส.กิตติมา วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจและการขาย บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยกว่า บริษัทฯ วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่ม "แม็คกรุ๊ป" ภายใต้การระบาดของโควิด-19 รอบ 3 และการกลับมาทำงานจากที่บ้าน (WFH) อีกครั้ง โดยมีการปรับกลยุทธ์การขาย โดยเฉพาะในส่วนของออฟไลน์ ได้ดึงพนักงานขาย (PC) ที่ประจำตามสาขาของบริษัทฯ ทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้าที่มีกว่า 1,000 คน หันมาขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับภาวะการณ์ที่ ศบค. ได้ประกาศขอความร่วมมือ WFH เพื่อลดการแพร่เชื้อในขณะนี้
ขณะที่แพลตฟอร์มการขายผ่านออนไลน์ ของบริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากคู่ค้าพันธมิตร ทำให้การขายผ่านช่องทางออนไลน์มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และคาดว่าจะสนับสนุนให้ยอดขายของบริษัทฯ ทรงตัวได้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น ไปรษณีย์ไทย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าของบริษัทที่มีการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ก็จะได้รับสินค้าที่ซื้อภายในวันที่ซื้อสินค้า และบริการส่งฟรี ถ้าหากอยู่ในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน ส่วนสินค้าของแม็คยีนส์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากช่องทางออนไลน์ ประกอบด้วย Hoodies , Sneaker , Mask , T-Shirt ซึ่งจากยอดขายที่ผ่านมา ถือว่าได้รับความนิยม และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
"การดึง PC ของบริษัทฯ ที่มีกว่า 1,000 คน ซึ่งเปรียบเสมือนการดำเนินกลยุทธ์การขาย แบบการสร้างเครื่อข่ายใยแมงมุม ที่จะสามารถเพิ่มปริมาณการขายให้มากขึ้น ประกอบกับการนำโปรโมชั่น Shop from home ส่งฟรีในจังหวัดเดียวกัน มาร่วมในการขาย ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัท สามารถผ่านวิกฤตโควิด ทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และทรงตัวได้ " น.ส.กิตติมา กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับช่องทางการเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางที่จะสนับสนุนให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เติบโต ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมียอดขายจากออนไลน์ถึง 750 ล้านบาท ภายในปี 65 และสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 422 ล้านบาท
"แม้จะมีการกลับมาระบาดของโควิด 19 รอบ 3 ที่รุนแรงขึ้น แต่การที่บริษัทฯ มีช่องทางการขายออนไลน์ ร่วมกับพันธมิตรโดยการจัดโปรโมชั่น ช็อปผ่านออนไลน์ยุค WFH จะทำให้ยอดขายกลับมาอีกครั้ง และด้วยโครงสร้างทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง ปลอดหนี้ โดยมีเงินสดในมือมากกว่าพันล้านบาท ทุกๆวิกฤตที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสให้กับบริษัทในการแสวงหาพันธมิตร ที่มีศักยภาพในช่องทางออนไลน์ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนต่อไป" น.ส.กิตติมา กล่าว