LEO คาดผลงานปีนี้ทำนิวไฮ ปรับเป้าโตเป็น 40-45% จากเดิม 20-25% หลังร่วมมือ China Post

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 11, 2021 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) คาดว่าในปี 64 นี้ ผลประกอบการของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดใหม่หลังจากบริษัทร่วมเป็นพันธมิตรและตัวแทนในประเทศไทยของบริษัท China Post Yunnan (China Post) ทำให้สามารถขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ (Mail and Small Parcel) โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 มิ.ย.64

ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้จากเดิมคาดเติบโต 20-25% เป็นเติบโต 40-45% และ จะส่งผลให้แนวโน้มกำไรสุทธิดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56.87 ล้านบาท ส่วนในปี 65 คาดว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่องราว 45-50%

นอกจากนั้น ความร่วมมือดังกล่าวยังจะทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้เปลี่ยนมาเป็นรายได้จากการขนส่งสินค้าทางอากาศ 20% จากปีก่อนมี 15% และสัดส่วนรายได้ขนส่งสินค้าทางเรือจาก 65% ปรับลงมาเป็น 60% ทั้งนี้ การขนส่งสินค้าทางอากาศมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 60-70% โดยบริษัทจะบันทึกการรับรู้รายได้ขนส่งทางอากาศจากกำไรขั้นต้นของการร่วมมือกับ China Post

บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็น General Sales Agent (GSA) ของสายการบิน China Postal Airline ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศจากกรุงเทพไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีน ด้วยเครื่องบินที่ใช้ในารขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ (Freighter) โดยเป็นเครื่องบิน Boeing 757 และมีความสามารถในการขนส่งสินค้าได้ประมาณ 30-35 ตันต่อเที่ยว ที่มีอยู่ 33 ลำและมีแผนที่จะให้บริการการบินไม่น้อยกว่า 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในปีหน้าจากปีนี้ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

นายเกตติวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีโอกาสขยายธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ และ Self Storage ที่ผู้ส่งสินค้าจะนำมาเป็นศูนย์กระจายสินค้า (Hub)ให้กับผู้ประกอบการ E-Commerce ขณะเดียวกันความร่วมมือกับ China Post ทำให้สินค้ากระจายไปในจีนและทั่วโลกได้รวดเร็วขึ้นเพราะทาง China Post มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่ China Post ก็ต้องการขยายตลาดในไทย และใช้ไทยเป็นศูนย์กระจายสินค้าไปสู่อาเซียน โดย China Post มีลูกค้าแพลตฟอร์ม E-Commerce ของจีนทั้งหมด อาทิ อาลีบาบา เจดี เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากอนาคตก็อาจมีการร่วมลงทุน (JV) เช่น คลังสินค้า รถบรรทุก เป็นต้น

"บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจอย่างมากที่ China post ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนที่มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน ให้ความมั่นใจและตัดสินใจเลือก LEO เป็นพันธมิตรในการขยายธุรกิจในประเทศไทยในครั้งนี้ ในขณะที่มีบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์อื่นๆอีกมากมายในประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่านี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของความสัมพันธ์ที่จะก่อให้เกิดความแข็งแกร่งทางด้านการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับลูกค้าในกลุ่ม E-commerce และมีโอกาสที่จะต่อยอดในเชิงธุรกิจร่วมกันไปในอนาคต"

นายเกตติวิทย์ ยังกล่าวว่าว่า บริษัทมีเป้าหมายขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) กับบริษัทในประเทศไทยที่มีธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศราว 90% หลังจากดีล China Post เสร็จสิ้นแล้วก็จะนัดเจรจากันอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ ซึ่งหากสำเร็จก็จะทำให้สัดส่วนของธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศปรับขึ้นเป็น 30-40%

ขณะที่บริษัทจะเริ่มนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO นำไปลงทุนตามที่ได้เคยแจ้งให้นักลงทุนไว้ ได้แก่ โครงการให้เช่าห้องเก็บของส่วนบุคคล (Leo Self Storage) แห่งใหม่ มูลค่าเงินลงทุนรวมไม่เกิน 147.22 ล้านบาท ลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ แห่งที่ 2 บริเวณถนนบางนา-ตราด ที่ใช้เงินลงทุนซื้อที่ดิน 70 ล้านบาท สำหรับดีล M&A คาดใช้เงินลงทุนหลักร้อยล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีหนี้สินต่ำมาก อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E )เพียง 0.3 เท่า และสามารถขอวงเงินกู้ได้ถึง 800 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในงวดครึ่งแรกของปี 64 การขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศยังดีอยู่ ความต้องการตู้คอนเทนเนอร์มีต่อเนื่องและมีค่าบริหารจัดการสูงขึ้น รวมถึงการขนส่งทางอากาศก็มีความต้องการสูงเช่นกันจากเดิมที่มีการขนส่งสินค้าร่วมกับการขนส่งผู้โดยสารที่หลายสายการบินงดทำการบิน ทำให้ค่าขนส่งทางอากาศสูงขึ้น 4-5 เท่า และเมื่อสถานการณ์การระบาดโควิดเริ่มคลี่คลาย ก็มีการสั่งซื้อของมากขึ้น ทำให้ตัวเลขการขนส่งสินค้าเติบโต

"บริษัทยังคงมีเป้าหมายการเติบโตในปี 66 ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท อนาคตก็ยังมีแผนขยายธรกิจต่อเนื่องเพื่อเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร น่าจะทำให้นักลงทุนมั่นใจธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งมองว่าธุรกิจโลจิสติกส์เป็นเหมือนเรือที่อยู่บนน้ำ ไม่ว่าน้ำจะขึ้นหรือลงธุรกิจก็ยังคงอยู่ การขึ้นลงเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ...ความตั้งใจให้ LEO เป็น Blue Chip ในธุรกิจโลจิสติกส์ หลายเดือนที่ผ่านมาเรามีข่าวดี เราทำตามสัญญาที่วางแผนไว้ ในอนาคตก็จะมีข่าวดีมาเรื่อยๆ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าวย้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ