(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: คอมโพสิตปิดทำนิวไฮ 12.48 จุด จากกระแสเฟดขึ้นดบ.

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (31 ต.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในที่ประชุมคืนนี้ ซึ่งช่วยบดบังความวิตกกังวลต่อราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และสถานการณ์เงินวอนที่แข็งค่าขึ้น
          โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบระหว่างการซื้อขายเกือบตลอดทั้งวัน หลังจากที่เงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้นทะลุระดับ 900 วอนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี จนส่งผลให้เกิดความหวั่นวิตกต่อรายได้ภาคการส่งออกของประเทศ  นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมบริการในเดือนก.ย.ชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ยิ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นมากขึ้น
          อย่างไรก็ตาม ดัชนีคอมโพสิตกลับดีดตัวขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ตลาดจะปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันได้เข้าช้อนซื้อหุ้นของแอลจี ฟิลิปส์ แอลซีดี หุ้นกลุ่มต่อเรือ กลุ่มเคมีภัณฑ์ และกลุ่มเครื่องจักร
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดพุ่งขึ้น 12.48 จุด หรือ 0.6% แตะระดับ 2,064.85 จุด ทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ 2,062.92 จุด 
          คิม เซ-จุง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชินยังกล่าวว่า "จากกระแสคาดการณ์ว่าที่ประชุมเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในคืนนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตลาดปิดบวกแข็งแกร่ง เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความเคลื่อนไหวในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐให้ดีขึ้น"
          ด้านฮอง ซุน-ปิว นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ไดชินเตือนว่า นักลงทุนอาจฉวยโอกาสจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเข้าเทขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดปิดพุ่งขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้
         ขณะที่ลี นา-รา นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ซัมซุงกล่าวว่า เงินวอนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐไม่น่าที่จะสร้างปฏิกิริยาใหญ่หลวงต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจในประเทศ โดยค่าเงินวอนพุ่งขึ้นแตะ 899.60 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะปิดที่ระดับ  900.70 ต่อดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับปิดวานนี้ที่ 907 ต่อดอลลาร์ และนับเป็นระดับสูงสุดหลังจากที่ปิดในระดับ 900.5 วอนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2540 
          นอกจากนี้ ลีกล่าวว่า กลุ่มผู้ส่งออกอาจได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากการแข่งขันกับคู่แข่งทั่วโลกเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
          โดยในวันนี้ตลาดมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 357 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 7.6 ล้านล้านวอน  
          หุ้นแอลจี ฟิลิปส์ แอลซีดีปิดพุ่งขึ้น 4.8% จากการคาดการณ์ที่ว่าบริษัทจะมีตัวเลขผลประกอบไตรมาส 4 ที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่สาม
          เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มต่อเรือและกลุ่มก่อสร้างที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความพอใจที่ภาคธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยหุ้นฮุนได เฮฟวี่ปิดถีบตัวสูงขึ้น 3.1% และหุ้นซัมซุง เฮฟวี่ปิดทะยานขึ้น 3.1%