ผู้บริหารTNDTเครียด!ถูกมองปล่อยข่าวปั่นหุ้น แจงประเด็นร้อนเกาะกระแสPTT

          นางชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเอ็นดีที(TNDT)โวยเครียด ถูกมองปล่อยข่าวสร้างราคาหุ้น โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ทั้งโอกาสรับงานของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)หลังจากได้สัมปทานใหม่ในบาห์เรน และที่มาแรงสุดข่าวแผนควบรวมกิจการกับกลุ่มปตท.ทำราคาพุ่งแรงไปถึง 9 บาทกว่า จากที่เข้าเทรดปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาด้วยราคา IPO แค่ 3.10 บาท  
         "ตอนนี้รู้สึกกังวลมากกว่าที่ราคาหุ้นขึ้นมาแรงอย่างนี้ ทั้งที่หุ้นขึ้นไปก็ไม่ได้เกี่ยวกับพี่เลย เพราะหุ้นที่ถือติดไซเลนท์พีเรียดอยู่แล้วตั้งกว่า 70% แล้วพี่จะไปปั่นเรื่องอะไร เป็นเรื่องของหุ้นในตลาด พี่ต้องบอกว่าพี่เครียดสุด ๆ เลย ก็มีคนโทรมาถามเยอะ แล้วคำถามนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ภาพมันทำให้เห็นว่าผู้บริหารคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ภาพมันก็เลยตุ้มเป๊ะไปหมด เราก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ เราระดมทุนเข้ามาตั้ง 60 กว่าล้านบาทจะไม่ทำอะไรก็ไม่ได้" 
          ล่าสุด เมื่อเวลา 15.01 น.วันนี้ ราคาหุ้น TNDT อยู่ที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท(+10.53%)มูลค่าซื้อขาย 268.59 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 8.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.65 บาท
*โอกาสรับงานบาห์เรนจาก PTTEP จริงหรือไม่
          "จริงอยู่ทางกลุ่มปตท.เป็นลูกค้าของบริษัทฯ แต่ข่าวที่ลงมาว่าบริษัทฯจะรับงานจากบาห์เรนหลังจากปตท.สผ.ชนะประมูลได้งานมา ความจริงมันไม่ใช่ขนาดนั้นเลย เพียงแต่เป็นเรื่องจริงที่ว่าปตท., ปตท.สผ.ทำอะไรเราจะต้องตามเขาไปตลอด แต่การตามเขาไปเราก็ต้องพัฒนาตัวของเราเองให้มีศักยภาพพอที่จะรับงานของเขาได้ ตามที่เขาไปรับมา
          แล้วมันเริ่มต้นด้วยงานปตท.สผ.ที่ต่างประเทศ หรือที่บาห์เรน มีโครงการเยอะแยะไปหมด ถ้าถามว่าเราจะตามเขาไปไหม ก็บอกได้ว่าเป็นหน้าที่เป็นอาชีพของเรา ซึ่งเราก็ได้ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว และก่อนหน้านี้เราก็ได้ตามปตท.สผ.ไปที่ดูไบ แต่เราดูแล้ว ค่า service มันต่ำมันไม่คุ้มที่ทำ ไหนจะประเพณีของเขา วัฒนธรรมของเขาในช่วงนั้นนะ เราจะต้องระวังตรงนี้ด้วย           
          เพราะถ้าไปแล้วเราไม่คุ้มเราสู้อยู่เมืองไทยก่อน มีงานเยอะแยะ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สนใจ เพราะเราได้แถลงอยู่แล้วว่าเราจะไปต่างประเทศ แต่ต้องรอโอกาสก่อนให้มันเหมาะสมขนาดไหน"
*ประเด็นเรื่องควบรวมกิจการกับกลุ่มปตท.
          "โอย...ใครไปกล้ารวม เพราะเขาใหญ่จะตาย แต่ถ้าควบรวมกับปตท.ได้เป็นเรื่องสุดประเสริฐ แต่มันเป็นไปไม่ได้ในเวลานี้ เราต้องเตรียมความพร้อมของเรา
          จากที่ ปตท.ขึ้นโครงการเยอะแยะ(นักข่าว)ก็มีการถามว่าจะควบรวมกันไหม เราก็ตอบว่าการควบรวมเป็นสิ่งที่ดี แต่บริษัทเราเล็กเหลือเกินเราจะทำยังไง เราจะต้องเตรียมตัวเราให้พร้อมก่อน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่มีอะไรมากพอที่จะไปเกี่ยวโยงกับบริษัทขนาดใหญ่อย่างนั้นได้ นอกจากเราพร้อมจริง ๆ เราจึงจะถือโอกาสเข้าไปคุยได้ 
          แต่ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของเรา ภายหลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนขาย IPO แล้ว ก็จะต้องนำมาใช้ในการพัฒนาคนและอุปกรณ์ และตอนนี้ก็เริ่มทำแล้ว เริ่มซื้อมาบางส่วนแล้ว แต่การซื้อและการเพิ่มของเราไม่เหมือนกับโรงงานที่ซื้อมาแล้วผลิตได้เลย เครื่องมือของเราเมื่อซื้อมาแล้วต้องศึกษา ต้องทดสอบการใช้เครื่องมืออันนั้นด้วย มันไม่ใช่วันต่อวัน มันก็ใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี 1-2 ปีเราคงจะเห็นการ advance เทคโนโลยีเข้ามาใช้ได้อะไรอย่างนี้ ก็เลยกลายเป็นที่มาว่า 2 ปีจะควบรวมกับกลุ่มของปตท. 
          แต่ยังไงก็ตามเรายังคิดว่าเราคิดถูกมากที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะมีโอกาสดี แต่เรื่องปลีกย่อยเรายังจัดระเบียบไม่ถูก เรายังไม่คุ้นน่ะ"