ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 1.12 จุด มีแรงขายท้ายตลาดหลังไม่ผ่าน 908 จุด,ลุ้นเฟดสัปดาห์หน้า

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 894.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด(+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 33,460.06ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยพุ่งขึ้นกว่า 10 จุด แม้จะมีการอ่อนตัวในระหว่างเทรด แต่ตลอดทั้งวันสามารถยืนแดนบวกได้ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 911.60 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 894.57 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 116 หลักทรัพย์ ลดลง 220 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 108 หลักทรัพย์
          นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้(25 ต.ค.)ที่มีการปรับตัวขึ้นมาแรงเกินความคาดหมาย โดยมีการเทรดหลักไปที่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน และแบงก์ โดยกลุ่มพลังงานได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
          ส่วนหุ้นในกลุ่มแบงก์ ราคาหุ้นในช่วงก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวลง และผลประกอบการงวดไตรมาส 3/50 ของกลุ่มแบงก์ที่ออกมาก็ถือว่าใช้ได้ดี แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์ยังไม่สะท้อนเท่าไร จึงทำให้วันนี้ได้รับแรงซื้อหนุนเข้ามาด้วย
          อย่างไรก็ดี คงจะแนะนำได้แค่"เทรดดิ้ง"ในช่วงสั้นเท่านั้น โดยเน้นไปที่หุ้นในกลุ่มพลังงาน และแบงก์ เพราะยิ่งดัชนีฯเข้าใกล้ 910 จุด ความเสี่ยงจากการลงทุนก็มีมากขึ้น เพราะสภาพตลาดฯยังขึ้นอยู่กับตลาดในภูมิภาค และการคาดหมายว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า
          ด้านแหล่งข่าวจากบล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในช่วงใกล้ปิดตลาดมีแรงขายออกมามาก จนทำให้ดัชนีฯปิดตลาดบวกแค่ 1 จุดกว่าเท่านั้น จากการเทรดวันนี้ที่ดัชนีฯสามารถวิ่งขึ้นไปกว่า 10 จุดได้ ทั้งนี้เป็นเพราะดัชนีฯไม่สามารถทะลุผ่านด่านที่ 908 จุดได้แม้จะพยายามจะให้ทะลุถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ 
          ทำให้นักลงทุนไม่อยากจะฝืนถือหุ้นต่อไปจึงขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะเมื่อดัชนีฯหลุดแนว 900 จุดก็มีแรงขายทำกำไรออกมาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามตลาดฯยังสามารถยืนแดนบวกได้ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
          สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นางวิริยา คาดว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะยังขยับขึ้นต่อได้อีกเล็กน้อย โดยควรจับตาผลประชุม FOMC ในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้ด้วย พร้อมให้แนวต้านที่ 910, 915 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 895 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 6,322.86 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 5,547.76 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย 1,851.90 ล้านบาท ปิดที่  92.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย 1,436.42 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,421.47 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ลดลง   2.00 บาท