นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL)คาดว่า ในปีนี้รายได้ของบริษัทน่าจะเติบโต 25% จากปีก่อนที่มี 2,695.62 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องทั้งในไตรมาส 2 และ 3 จากการที่ปัจจัยทางการเมืองคลี่คลายและการปรับลดลลงของอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ทำให้มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อยอดคำสั่งซื้อเหล็ก
ทั้งนี้ MILL จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
สำหรับการเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้นในราคา 2.90 บาทจะทำให้บริษัทจะได้เม็ดเงิน 290 ล้านบาท โดยจะแบ่งเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนเป็น 80% ใช้เป็นทุนหมุนเวียน และ การลดภาระดอกเบี้ย ส่วนอีก 20% จะใช้ในการพัฒนาเครื่องจักร
หลังจากได้เงินเพิ่มทุนมาใช้หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยประมาณ 7% จะทำให้ Net Profit Margin ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 5% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมเหล็ก จากปัจจุบันที่ Net Profit Margin อยู่ที่ 3% และหลังเพิ่มทุนแล้วจะทำให้ D/E ลดลง โดยมีเป้าหมายที่ 1 เท่า จาก 3 เท่าในปัจจุบัน
นายสิทธิชัย กล่าวต่อว่า ในช่วงสั้นกลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูลยังไม่มีแนวคิดที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นหลังจากที่เพิ่มทุนกลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูลจะถือในสัดส่วน 40% กว่า
"มั่นใจว่าหุ้น MILL จะเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากขณะนี้แนวโน้มเหล็กอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีจุดเด่นในเรื่องการให้บริการลูกค้าที่ดี การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและส่งมอบสินค้าตรงเวลา รวมทั้งยังมุ่งเน้นการบริการในลักษณะ “One — Stop Service" ที่มีสินค้าเกี่ยวกับเหล็กทุกประเภทจำหน่าย ซึ่งจากการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินก็พบว่า เสียงตอบรับหุ้น MILL อยู่ในระดับที่น่าพอใจ" นายสิทธิชัย กล่าว
ด้านนายชาญชัย กุลถาวรากร ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น MILL กล่าวว่า ราคาหุ้น MILL ที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) อยู่ที่หุ้นละ 2.90 บาท โดยจะเสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคมนี้ คาดว่าน่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550
“เคทีบีมั่นใจว่าหุ้น MILL จะเป็นที่สนใจของผู้ลงทุน เพราะบริษัทมีรายได้จากขายเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับความสามารถในการขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่องบวกกับการดำเนินกลยุทธ์ในเชิงรุก โดยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น" นายชาญชัยกล่าว
ในวันนี้ MILLได้มีพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายหุ้นสามัญที่นำออกเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นแกนนำในการจำหน่ายและร่วมจัดจำหน่าย ประกอบด้วย บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) บล.สินเอเซีย บล.นครหลวงไทย บล.โกลเบล็ก บล. บีฟิท และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--