ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 77.96 จุดขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 13, 2007 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตได้ดี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผลพวงจากข่าวการควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 77.96 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 14,093.08 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.39 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,561.80 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33.48 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 2,805.68 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 2.71 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันพฤหัสบดีที่ 3.82 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นทันทีหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.2% ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวสหรัฐยังคงสดใส โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมและเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต
นายเดอร์ริค วูลฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ดไวท์ แอสเซท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังช่วยย้ำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตได้ดี หลังจากก่อนหน้านี้ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่ง"
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้อเข้าหนุนอย่างหนาแน่น หลังจากมีข่าวว่าบริษัทออราเคิล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟท์แวร์ทางธุรกิจ เสนอซื้อกิจการบริษัทบีเออี ซิสเต็มส์ มูลค่า 6.66 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าจะมีบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งที่จะเข้าควบรวมกิจการกัน หลังจากธุรกิจภาคเอกชนตกอยู่ในภาวะระส่ำระสายอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้หุ้นออราเคิลร่วงลง 2% ปิดที่ 22.44 ดอลลาร์ แต่ช่วยหนุนหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 38% ส่วนหุ้นแมคโดนัลด์ทะยานขึ้น 77 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.02 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 54.9%
นอกจากนี้ หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) พุ่งขึ้น 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์ในหลายภูมิภาค อาทิ ละตินอเมริกา เพิ่มขึ้น 22%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ