ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดตกลงแตะระดับต่ำสุดของวันในวันนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่า เมอร์ริล ลินช์ อาจเปิดเผยผลกระทบจากวิกฤตการณ์ซับไพรม์ที่มีต่อการดำเนินงานของบริษัทมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้
นอกจากนั้นนักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังโดยเลือกที่จะเทขายทำกำไรก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีผลต่อการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในสัปดาห์หน้าด้วย
"มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวัง" เค อาจิตห์ นักวิเคราะห์จาก UOB Kay Hian กล่าว "ตลาดต่างให้ความสนใจกับปัจจัยภายนอกอย่างผลการดำเนินงานของเมอร์ริล ลินช์, ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ และผลการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)"
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 46.18 จุด หรือ 1.3% ปิดแตะระดับต่ำสุดของวันที่ 3,649.12 จุด หลังแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 3,735.11 จุดในช่วงเช้า มีปริมาณการซื้อขาย 2.4 พันล้านหุ้น มูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
นายอาจิตห์กล่าวเพิ่มเติมว่า "นักลงทุนอาจปลีกตัวและมองดูสถานการณ์ตลาดจากภายนอกในระยะใกล้นี้ เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนอยู่มาก"
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มหลักที่ฉุดดัชนีสเตรทส์ไทม์ก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสสาม ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลดีจากธุรกิจการปล่อยกู้ในไตรมาสเดียวกัน
หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ลดลง 40 เซนต์, หุ้นยูโอบีลดลง 50 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซีขยับลง 10 เซนต์ โดยดีบีเอส กรุ๊ป จะเปิดเผยผลประกอบการณ์วนวันศุกร์นี้ ส่วนยูโอบีจเปิดเผยผลประกอบการณ์ในวันอังคารหน้า
หุ้นคอสโค สิงคโปร์ ยังคงลดลงอีก 35 เซนต์ เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่าผู้ถือหุ้น SembCorp Marine อาจเทขายหุ้นในบริษัทคอสโคอีก โดยเมื่อวานนี้ SembCorp Marine ได้ขายหุ้นบริษัทคอสโคไป 39 ล้านหุ้น ส่งผลให้ตอนนี้เหลือหุ้นที่ถืออยู่ 111.4 ล้านหุ้น
ส่วนหุ้น SembCorp Marine ขยับลง 12 เซนต์ ในขณะที่หุ้น SembCorp Industries ลดลง 15 เซนต์
หุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชงจ์ ลดลง 30 เซนต์, หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ขยับลง 6 เซนต์, หุ้นเคปเพล คอร์ป ขยับลง 10 เซนต์ และหุ้นเนปจูน โอเรียนท์ ไลน์ส ลดลง 20 เซนต์
หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ขยับขึ้น 10 เซนต์ และ หุ้นเคปเพล แลนด์ ขยับขึ้น 5 เซนต์ หลังจากที่บริษัทเปิดเผยผลกำไรสุทธิในไตรมาสสามที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 81.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จากเดิมที่ 38.5 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากยอดขายบ้านพักอาศัยและยอดสำนักงานให้เช่าเพิ่มสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--