นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.ซีแพนเนล (CPANEL) เปิดเผยว่า CPANEL ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ Filing) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 และยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้ว
ปัจจุบัน CPANEL มีทุนจดทะเบียนจำนวน 150 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 110.50 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นการรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) 39.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.50 ล้านหุ้น และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาด mai
ด้านนายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ APM กล่าวเสริมว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะช่วยเพิ่มศักยภาพ ขยายโอกาส และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว
CPANEL มีวัตถุประสงค์นำเงินที่เสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมอีก 1 โรงงาน รวมค่าก่อสร้างโรงงาน ค่าเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ติดตั้งเครื่องจักร และการทดสอบระบบการทำงาน (Commissioning Tests) รวมถึงนำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิต โดยการลงทุนก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มเติมภายในบริเวณที่ตั้งโรงงานในปัจจุบัน และจะติดตั้งเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated คล้ายกับที่ใช้งานอยู่ แต่จะมีการจัดวาง layout ของเครื่องจักรให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกอย่างน้อย 720,000 ตารางเมตรต่อปี จากปัจจุบัน 720,000 ตารางเมตรต่อปี รองรับการเติบโตของรายได้ตามแผนธุรกิจ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 500 ล้านบาท คาดการณ์จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 64
CPANEL ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นพื้นและผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete Wall and Slap Panel) และส่วนประกอบอาคารที่ผลิตจากคอนกรีตสำเร็จรูป อาทิ คาน บันได ผนังรับหลังคา ฟาซาด ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม อาคารคลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า "CPANEL" โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปให้กับกลุ่มลูกค้าประเภทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้รับเหมาก่อสร้าง
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของ CPANEL ผลิตด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated ที่ทันสมัยของ Vollert Anlagenbau Gmbh ประเทศเยอรมันนี และได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยนำ Software ต่างๆที่ทำงานเชื่อมโยงกันและบริหารงานก่อสร้างบนระบบ Building Information Modeling หรือ BIM ตั้งแต่การออกแบบ ควบคุมการผลิต การทำงานหน้างาน และการจัดทำรายงานเอกสารเข้าด้วยกันอย่างบูรณาการ
ณ วันที่ 22 ก.พ.64 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 150,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 110,500,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 110,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนจำนวน 39,500,000 หุ้น บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเต็มจำนวน
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ กลุ่มนายชาคริต ทีปกรสุขเกษม จาก 64.71% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะลดลงเป็น 47.67% กลุ่มนายนิพนธ์ ลีละศิธร จาก 10.27% จะลดลงเป็น 7.58% กลุ่มนางสาวณิชา หล่อเลิศวิทย์ จาก 5% จะลดลงเป็น 3.68% กลุ่มนายชนันต์ ชาญชัยณรงค์ จาก 5% จะลดลงเป็น 3.68% นายชัยยุทธ ศรีวิกรม์ จาก 7.50% จะลดลงเป็น 5.53% และ หม่อมหลวงวัลลีวรรณ วรวรรณ จาก 7.50% จะลดลงเป็น 5.53%
ผลประกอบการในช่วงปี 61-63 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 233.50 ล้านบาท, 316.91 ล้านบาท และ 220.35 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิ 31.39 ล้านบาท 36.58 ล้านบาท และ 13.12 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมเท่ากับ 11.92%, 11.35% และ 5.93%
ส่วนไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 86.24 ล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 56.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.41 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 1.04 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ณ วันที่ 31 มี.ค.64 บริษัทมีสินทรัพย์ 562.92 ล้านบาท หนี้สิน 424.71 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 138.21 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและบริษัท ในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด