นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/63 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากตลาดการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงเติบโต รวมถึงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น
ผลประกอบการไตรมาส 1/64 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 413.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 296.39 ล้านบาท จำนวน 117.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.62 % และมีกำไรสุทธิ 13.89 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท จำนวน 4.89 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 54.28 %
แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลประกอบการของบริษัทยังคงเติบโต สามารถสร้างรายได้จากการส่งออก และจำหน่ายภายในประเทศได้เติบโตต่อเนื่อง โดยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ส่งออกและจำหน่ายภายในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นคิดเป็น 29.36 %และ 59.43 % ตามลำดับ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ 58 % และจำหน่ายภายในประเทศ 42%
สำหรับตลาดต่างประเทศ รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสำคัญ สำหรับลูกค้าในประเทศอื่น ๆ อาทิ อินเดีย จีน โอกาสในการสั่งซื้อสินค้าก็จะเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อีกทั้งการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ เกิดจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่รัฐบาลมีคำสั่งล็อคดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ร้านค้าประเภท Hypermarket อาทิ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี โฮมโปร ฯลฯ ที่เป็นลูกค้าของบริษัท จำเป็นจะต้องปิดการขายผ่านสาขาตามคำสั่งของรัฐบาล
ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ที่ผ่านมารับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 220 เมกะวัตต์ เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ ที่เข้าลงทุนในสัดส่วน 20% สำหรับเฟสแรก (50 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว) ยังคงสามารถจำหน่ายไฟฟ้าและเรียกเก็บเงินได้ตามปกติ ภายในสถานการณ์ความไม่สงบด้านการเมืองของเมียนมาร์
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 64 คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยเพิ่มเติม 1 แห่ง คือ บริษัท โซเมว่า พลาซ่า จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อประกอบธุรกิจออนไลน์แพลทฟอร์ม คาดว่าจะจดจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยภายในเดือนมิ.ย. 64 นี้