นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากบริษัทเตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในประเทศญี่ปุ่น ในไตรมาส 3/64 และโครงการพลังงานลมขนาด 48 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม COD ในไตรมาส 4/64 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศทะลุ 200 เมกะวัตต์ ตามแผน
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคต บริษัทเตรียมขยายการลงทุน Solar Rooftop ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปี 65 จะ COD ประมาณ 15 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 17 เมกะวัตต์ โดยอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ คาดว่าจะ COD ได้ในปี 66
ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้ากำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ จากพลังงานลมเวียดนามเฟส 2 ขนาด 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณา
ขณะที่ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/64 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 501.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA เท่ากับ 413.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท) จำนวน 183.1 ล้านบาท ลดลง 15.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 51 ล้านบาท เกิดจากการกู้ยืมเงินระยะสั้นภายในกลุ่มบริษัท โดยในช่วงปลายปี 63 บริษัทได้มีปรับปรุงโครงสร้างการกู้ยืมเงินในกลุ่มบริษัทใหม่เพื่อไม่ให้มีรายการนี้มากระทบกำไรขาดทุนของบริษัท
สำหรับกำไรหลักจากการดำเนินงานจำนวน 178.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงาน 35.6% ของรายได้รวม สะท้อนการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ เปิดดำเนินการระหว่างปี 63 และจะรับรู้เต็มปีในปี 64 โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือที่ 145 เมกะวัตต์"นายวรุตม์ กล่าว