(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 0.98 จุดหลังยอดขายบ้านสหรัฐร่วง

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกริยาต่อข้อมูลยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก และบริษัทเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ที่เปิดเผยตัวเลขขาดทุนอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับลง 0.98 จุด หรือ 0.01% แตะระดับ 13,675.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดรูดลง 3.71 จุด หรือ 0.24% แตะระดับ 1,515.88 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 24.50 จุด หรือ 0.88% แตะที่ระดับ 2,774.76 จุด
          ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.59 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.78 พันล้านหุ้น
          ไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัทเชฟเฟอร์ อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักถึง 200 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงอย่างรุนแรง แต่ต่อมาดัชนีเริ่มกระเตื้องขึ้นและสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 30-31 ต.ค.นี้
          "ทันทีที่นักลงทุนขานรับการคาดการณ์ดังกล่าว พวกเขาก็ส่งคำสั่งซื้อเข้าตลาด ซึ่งทำให้ดัชนีดาวโจนส์ไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน และปิดลดลงไม่มากหนัก สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนอยากเห็นเฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในการประชุมเดือนนี้" เดทริคกล่าว
          กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยลงอีกได้หนุนราคาพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่นตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
          นอกเหนือจากข้อมูลยอดขายบ้านมือสองแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัทเมอร์ริล ลินช์ ประกาศตัดบัญชีหนี้สูญมูลค่า 7.9 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ นายสแตน โอนีล ผู้บริหารเมอร์ริล ลินช์ได้แสดงความเห็นว่า ตลาดสินเชื่อจะยังคงผันผวนและชะลอตัวลงอีก ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มเงินร่วงลงอย่างหนัก 
          ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกแรงขายกระหน่ำ หลังจากบริษัทบร็อดคอม คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยหุ้นอินเทลร่วงลง 3% และหุ้นบร็อดคอมดิ่งลง 17%