นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์ และกำกับดูแลการปฎิบัติงาน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เปิดเผยว่า บริษัท ยังคงเป้าหมายรายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับทีโอที) และกำไรก่อนจะหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้จะเติบโตในอัตราตัวเลขเดียวระดับต่ำ (low single-digit) โดยยังมีความกดดันจากสถานการณ์การแพ่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ แต่จะได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจอิเตอร์เน็ตบ้าน (AIS Fiber) และธุกริจเอ็นเตอร์ไพร์ เนื่องด้วยลูกค้ายังมีความต้องการที่จะติดตั้งบรอดแบนด์เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 โดยในเดือนเม.ย.64 ดีมานด์ของลูกค้ามีความอ่อนตัวลง เนื่องจากคนออกจากบ้านน้อยลง และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันมากขึ้น จึงทำให้ลูกค้าที่เดินเข้าร้านลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขายสินค้าและบริการของบริษัท
อนึ่ง ADVANC แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/64 มีกำไรสุทธิ 6.64 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.23 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.76 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.27 บาท โดยรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 32,425 ล้านบาท โดยรายได้จากบริการหลักลดลงะ 2% จากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะยังคงรักษาระดับราคาของธุรกิจทั้งการให้บริการโทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตให้อยู่ในระดับที่ทรงตัว โดยคาดว่าการแข่งขันในตลาดคงไม่รุนแรงไปมากกว่านี้ ซึ่ง ADVANC ได้วางแผนจัดหาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เครือข่าย 5G ร่วมกับทางประเทศจีน เพื่อให้สามารถขายโทรศัพท์มือถือในราคาที่ไม่แพงมาก รองรับลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์น้อยให้สามารถเข้าถึง 5G ได้ง่ายขึ้น ส่วนกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง ก็น่าจะยังซื้อสินค้าอยู่ และน่าจะมีรายได้ในส่วนนี้เข้ามาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายยอดลูกค้าใช้บริการ 5G สิ้นปี 64 อยู่ที่ 1 ล้านราย และลูกค้า AIS Play ปีนี้คาดมีฐานลูกค้าที่ 3 ล้านราย
"เราคาดว่าครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และช่วงเดียวกันของปีก่อน ถ้าการกระจายการฉีดวัคซีนทำได้ดี คนมีความเชื่อมั่นก็น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยปรับตัวดีขึ้น" น.ส.นัฐิยา กล่าว
ด้านงบลงทุนปีนี้ บริษัทฯ ยังคงงบลงทุนไว้ที่ 25,00-30,000 ล้านบาท โดยหลักจะเน้นการลงทุนในโครงข่าย 5G และราว 5,000-6,000 ล้านบาทจะลงทุนใน FTTx broadband และอีก 2,000-3,000 ล้านบาทจะลงทุนในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์ซ