(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ทางเทคนิคตามภูมิภาคสัญญาณดีจากยุโรปคลายล็อกดาวน์

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 18, 2021 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ทางเทคนิค คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่รีบาวด์ขึ้นมาราว 1% หลังจากปรับตัวลงไปมาก ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นติดลบเนื่องจาก GDP ติดลบ โดยทางยุโรปมีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ ทำให้สัญญาณโลกดีขึ้น และอาจช่วยหนุนทางฝั่งเอเชียด้วย

ส่วนบ้านเราวันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงมากจากวานนี้กว่า 9 พันราย เหลือเพียง 2 พันกว่าราย ซึ่งช่วยหนุนตลาดฯได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีน

แต่ทั้งนี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มที่จะปรับตัวลง หลังจากที่เริ่มมองถึงการลดนโยบายผ่อนคลายในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ดีการส่งออกยังดีอยู่ และมองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงระยะสั้นในทิศทางที่ยังเป็นขาขึ้น นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 1/64 ส่วนใหญ่ก็ออกมาดี อย่าง SAWAD เป็นต้น

พร้อมให้ติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 27-28 เม.ย.ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้

โดยให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,327.79 จุด ลดลง 54.34 จุด (-0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,163.29 จุด ลดลง 10.56 จุด (-0.25%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,379.05 จุด ลดลง 50.93 จุด หรือ (-0.38%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.03 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 106.74 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 243.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 พ.ค.) 1,549.16 จุด ลดลง 0.32 จุด (-0.02%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 466.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 พ.ค.) ปิด 66.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 พ.ค.) อยู่ที่ 1.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.46/47 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาคจากกังวลระบาด ให้กรอบ 31.40-31.55
  • สศช.หั่นจีดีพีเหลือ 1.5-2.5% บนสมมุติฐานว่าจะคุมการระบาดได้ภายใน มิ.ย.นี้ ภาคท่องเที่ยวทรุดหนัก ลดคาดการณ์นักท่องเที่ยวเข้าประเทศเหลือ 5 แสนคน สร้างรายได้แค่ 1.75 แสนล้านบาท เผยเศรษฐกิจไตรแรกติดลบ 2.6% แนะ 7 ข้อรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจ เร่งกระจายวัคซีนให้ภาคการผลิต ปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี
  • "สุพัฒนพงษ์" ประชุมบอร์ด PPP อนุมัติเดินหน้าทางด่วน "สายกะทู้-ป่าตอง" วงเงินลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท เตรียมชง ครม.เคาะเปิดเอกชนร่วมลงทุน 35 ปี วางแผนเปิดบริการปี 70 เพิ่มโครงข่ายเดินทางสะดวกและปลอดภัย
  • ธปท.เปิดผลงานธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรก เผยกำไรทรุด 12% เหลือ 4.38 หมื่นล้านบาท อ่วมรายได้ดอกเบี้ยลด 17.1% ชี้หนี้บัตรรูดปรื๊ดพุ่ง รับเป็นห่วงหนี้เสียในระบบขยับ หลังกลุ่มธุรกิจบริการกระอักพิษไวรัสระบาดหนัก
  • ธุรกิจอสังหาฯ ปลื้มไตรมาสแรกรายได้ทะลัก "ลลิล" ทำผลงานเด่นเหนือภาพรวมอุตสาหกรรม กำไรกว่า 29% "สิงห์ เอสเตท" คุยพลิกกำไร 70 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนเสริมแกร่ง ด้าน "แสนสิริ" อวดกำไรโตกว่า 500% ตุนเงินสดกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยต่อ อสังหาฯ-การเงิน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SABUY-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 102,650,408 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.25 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (11 พ.ค. 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 10 พ.ย. 2564 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 10 พ.ค. 2567
  • SCGP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 60 บาท กำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิต และผลบวกจากการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกจากการได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่มีผล 27 พ.ค.
  • PTT (ยูโอบี เคย์เฮียน) "เก็งกำไร" ผลประกอบการฟื้นตัว และ Laggard ในเชิง valuation
  • EPG (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 12.50 บาท คาดกำไรปีนี้โต +20%YoY ที่ 1.2 พันลบ. รับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ฟื้นตัว ธุรกิจ Aeroklas ฉายแววพระเอก ส่วนธุรกิจอื่นทั้ง Aeroflex และ EPP ก็ไม่น้อยหน้า คาด Momentum ยอดขายยังเติบโตได้ต่อ Packaging ประเภทใช้แล้วทิ้งขายดี ด้านค่าเงินในปี 64 มีทิศทางอ่อนค่า เป็นต่อผลการดำเนินงาน ขณะเดียวกันธุรกิจประดับยนต์ที่ออสเตรเลีย (TJM) เริ่มมีกำไร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ