บมจ.โฟคัส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(FOCUS)มั่นใจหลังผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นให้กับพันธมิตรใหม่ที่เป็นกลุ่มกองทุนต่างประเทศจะทำให้บริษัทแข็งแกร่งมากขึ้นทั้งทางด้าน Network การตลาด และฐานการเงิน คาดกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่จะส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งในระยะใกล้โครงสร้างธุรกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนผลงานปีนี้ยังเชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน แม้ว่าอาจทำได้ไม่ถึงเป้าที่วางไว้ว่าจะเติบโตจากปีก่อน 20% เนื่องจากปีนี้อุตสาหกรรมก่อสร้างอาการสาหัส แต่โชคดีครึ่งปีแรกทำงานใหญ่แล้วเสร็จไป 2 โครงการ ขณะที่ Backlog ในมือเหลือไม่ถึง 500 ล้านบาทต้องเร่งหางานเติม โดยขณะนี้รอผลประมูล 5-6 โครงการมูลค่ารวมพันล้านคาดภายใน 2 เดือนนี้รู้ผล
*หวังศักยภาพกลุ่มกองทุนตปท.เสริมด้านความแข็งแกร่ง
นายนนทวัฒน์ ทองมี กรรมการผู้จัดการ FOCUS กล่าวถึงกรณีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 รายขายหุ้นรวม 15.19% ให้กลุ่ม QUAM Securities, Knight High Harvest Fund, Knight Pacific, Knight Septagon Asian Fund, Knight Asia Property Fund วานนี้ว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่จะทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากขึ้นทั้งทางด้าน Network การตลาด และฐานการเงิน
"ผมเชื่อว่าพันธมิตรจะเข้ามาลงทุนระยะยาว และเชื่อว่าหลังจากนี้บริษัทน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะพันธมิตรใหม่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาสร้างบริษัทให้แข็งแกร่ง มั่นคงมากขึ้น"นายนนทวัฒน์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ก่อนหน้านี้ QUAM Securities ถือหุ้นใน FOCUS อยู่แล้ว 0.65%
นายนนทวัฒน์ คาดว่ากลุ่มกองทุนต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้นใหม่คงจะส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเป็นกรรมการเพิ่ม เพราะจำนวน 19 ล้านหุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่ถืออยู่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของทุนจดทะเบียน 125 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างธุรกิจของบริษัทยังเหมือนเดิมที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก ส่วนต่อไปจะแตกแขนงขยายขนาดธุรกิจ หรือขยายไลน์ไปทำธุรกิจอื่นเพิ่มเติมหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต
"ส่วนตัวมองว่าด้วยทุนที่ตอนนี้ยังมีจำกัด ทำให้ทำธุรกิจได้จำกัด แต่ถ้าวันหนึ่งเรามีทุนมากขึ้นก็สามารถทำธุรกิจได้มากขึ้นและคงจะไม่มีข้อจำกัดอะไรที่จะไม่ย้ายหมวดจาก mai ไปอยู่ในตลาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการมีพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้น"นายนนทวัฒน์ กล่าว
นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่ 17 ล้านบาทและมีเป้าหมายที่จะล้างขาดทุนสะสมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาหักล้าง
"เราอยากล้างขาดทุนสะสมเกิดขึ้นโดยการนำเงินจากการดำเนินงานมาหักล้าง ซึ่งจะพยายามทำให้เร็วที่สุด"นายนนทวัฒน์ กล่าว
*เชื่อปี 50 ยังดีกว่าปี 49 แต่อาจพลาดเป้าโต 20%
นายนนทวัฒน์ มั่นใจว่า ภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 60.78 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17.74 ล้านบาท เทียบกับปี 49 ทั้งปีที่มีรายได้ 825.02 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.16 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้อานิสสงส์จากงาน 2 โครงการใหญ่ที่เสร็จสิ้นไป คือ งานก่อสร้างให้กลุ่มฮัทชินสันที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำของนิมคมอุตสาหกรรมนวนคร มูลค่ารวม 550 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ไปเต็มที่ในไตรมาส 1/50 และ 2/50
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ที่คงจะเติบโตไม่ถึงเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโต 20% เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่งานภาครัฐส่วนใหญ่เป็นงบผูกพัน
"เดิมเราตั้งใจว่าปีนี้จะโต 20% จากปีก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้ว ก็คงเป็นไปตามอุตสาหกรรม จากความไม่นิ่งทางการเมือง เรื่องราคาวัสดุก่อสร้าง...คิดว่าปีนี้คงเหนื่อยขึ้น แต่โดยภาพรวมคงยังดีกว่าปีก่อน"นายนนทวัฒน์ กล่าว
นายนนทวัฒน์ เปิดเผยว่า ภาวะโดยรวมที่ชะลอตัวลงส่งผลให้งานในมือ(backlog)ของบริษัทลดลงเหลือไม่ถึง 500 ล้านบาท แต่บริษัทยังมีงานที่รอผลประมูลอยู่ 5-6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ซึงคาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 เดือนข้างหน้า
ส่วนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น บริษัมมองว่าผู้รับประโยชน์ส่วนใหญ่คือผู้รับเหมารายใหญ่ๆ ส่วนผู้รับเหมาขนาดกลาง ขนาดเล็ก ก็คงได้แต่งานรับเหมาช่วง ซึ่งเ FOCUS ก็มีโอกาสที่จะได้งานรับเหมาช่วง เพราะมีความถนัดงานก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นถนน โรงแรม โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัย
*ผถห.อันดับ 2 ขายหุนหมดพอร์ตเพื่อวางมือ
นายอนุกร เวชไพศาลพิพัฒน์ ผู้ถือใหญ่อันดับ 2 ใน FOCUS กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจขายหุ้น FOCUS หมดพอร์ต จำนวน 16,699,900 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.35% เนื่องจากต้องการวางมือจากธุรกิจเพราะอายุมากแล้ว ดังนั้นนายเจเรมี่
คิง ซึ่งเป็นกรรมการที่เข้ามาใหม่ได้ติดต่อให้กลุ่มกองทุนต่างประเทศดังกล่าวเข้ามาซื้อหุ้น
"ผมถือ FOCUS อยู่ตัวเดียว และที่ผมตัดสินใจขายหุ้น FOCUS ออกหมดทั้งๆที่ถือมาตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนที่ราคา IPO ที่ 4.50 บาท/หุ้น เพราะอายุมากแล้ว อายุ 59 แล้ว พอดีกับนายเจเรมี่ คิง ซึ่งเข้ามาเป็นกรรมการใหม่ของ FOCUS และเป็นกลุ่มเดียวกับ QUAM Securities ทราบก็เลยชักกลุ่มผู้ซื้อเข้ามา"นายอนุกร กล่าว
นอกจากนั้น ทางผู้ซื้อต้องการซื้อหุ้นในจำนวน 19 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ไม่เพียงพอ จึงได้เสนอซื้อหุ้นส่วนหนึ่งจากนางนภารัตน์ สิหนาทกถากุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--