ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกผลประกอบการ ทุบดาวโจนส์ปิดร่วง 366.94 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.)  โดยดัชนีปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันหลายด้าน อาทิ บริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ความกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อ และราคาน้ำมันที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 366.94 จุด หรือ 2.64% แตะระดับ 13,522.02 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 39.45 จุด หรือ 2.56% แตะระดับ 1,500.63 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 74.15 จุด หรือ 2.65% แตะระดับ 2,725.16 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 4.05 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันพฤหัสบดีที่ 3.13 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 1
          นายอลัน เกล นักวิเคราะห์จากบริษัททรัสโก แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักหลังจากบริษัทหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา โดยเฉพาะผลประกอบการของบริษัทคาเตอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการก่อสร้างรายใหญ่สุดของโลก นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ยิ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ"
          "นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่ง โดยมีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะซบเซาลงเพราะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองและจากภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ" นายเกลกล่าว
          ทั้งนี้ หุ้นคาเตอร์พิลลาร์ดิ่งลง 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 21% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ คาเตอร์พิลลาร์ยังปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีลงด้วย
          หุ้นฮันนีเวลล์ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ ร่วงลง 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 14% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดทั้งปีลงเช่นกัน
          ส่วนหุ้นบริษัท 3M ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 ขยับขึ้นเพียง 7% เนื่องจากยอดขายที่ต่ำเกินคาด อย่างไรก็ตาม หุ้นกูเกิลดีดขึ้น 5.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 644.71 ดอลลาร์ หลังจากกูเกิลเปิดเผยว่า กำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 46%