นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานในช่วงไตรมาส 2/64 คาดว่ายอดขายจะสูงกว่าไตรมาส 1/64 ที่มียอดขาย 7.5 พันล้านบาท หลังจากช่วงเดือน เม.ย.64 ได้เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม แฮมป์ตัน ศรีราชา ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ บมจ.ดุสิตธานี (DTC) มูลค่า 1.4 พันล้านบาท จนถึงขณะนี้สามารถทำยอดขายไปแล้วกว่า 70% ส่งผลให้ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 64 ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนั้นยังมีโครงการแนวราบอีก 2 โครงการ คือ โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 มูลค่า 700 ล้านบาท และโครงการแกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์-พระราม 5 มุลค่า 2.1 พันล้านบาท ที่เตรียมทยอยเปิดตัวในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 64
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะยังทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.9 หมื่นล้านบาท และยังคงแผนการเปิดโครงการในปีนี้ไว้ตามเดิมที่ 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าปัจจุบันจะมีผลกระทบจากโควิด-19 รอบ 3 แต่บริษัทได้ปรับตัวในด้านการพัฒนาสินค้า การขาย และการตลาดใหม่ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากกลุ่มสินค้าที่บริษัทพัฒนานั้นเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีรายได้ประจำเป็นหลัก และการขายโครงการผ่านออนไลน์มีลูกค้าเข้ามาจองซื้อมากขึ้นในช่วงที่มีการ Work From Home
ส่วนรายได้ก็ยังคงเป้าที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเช่นเดียวกัน และคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/64 รายได้ยังมีทิศทางที่เติบโตขึ้น จากการทยอยทยอยโอนโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 4 โครงการ และยังมีโครงการที่เริ่มทยอยโอนตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1/64 เข้ามาต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 2/64 จะสูงกว่าไตรมาส 1/64 ที่ทำได้ 3.86 พันล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อีก 3 ไตรมาสที่เหลืออีก 1.15 หมื่นล้านบาท ทำให้รายได้ของบริษัทจะทำได้ตามแผนที่ตั้งไว้
ด้านธุรกิจโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง คือ Staybridge suite ทองหล่อ และ Holiday inn & suites ศรีราชา-แหลมฉบัง มีอัตราเข้าพักในระดับที่ค่อนข้างพอใจ แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ เพราะยังคงมีสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 3 เกิดขึ้น และยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่งชาติ ทำให้ธุรกิจโรงแรงยังได้รับแรงกดดันอยู่บ้าง แต่อัตราเข้าพักถือว่าดีพอสมควร
ทั้งนี้ Staybridge suite ทองหล่อ มีอัตราการเข้าพัก 58% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว และ Holiday inn & suites ศรีราชา-แหลมฉบัง มีอัตราการเข้าพักในปัจจุบันที่ 51% จากกลุ่มลูกค้าในประเทศที่ยังมีการท่องเที่ยวในจังหวัดที่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/64 บริษัทจะเริ่มการลงทุนพัฒนาพื้นที่เช่าคลังสินค้าและห้องเย็น พื้นที่ 62,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดได้ในไตรมาส 2/65 และเตรียมพิจารณานำพื้นที่เช่าคลังสินค้าและห้องเย็นขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในช่วงปลายปี 65 หรือปี 66
ส่วนการร่วมลงทุนใหม่กับพันธมิตรในช่วงไตรมาส 2/64 จะเห็นความชัดเจนในการทำธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งได้มีการจัดตั้งบริษัทมารองรับไว้แล้วในช่วงต้นปี 64 ที่ผ่านมา