แหล่งข่าวจากบล.เคทีบี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่าทางสำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับ 1 แบบคำขออนุญาตของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่า MILL จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น ได้ในวันที่ 25-26 และ 29 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2550
สำหรับราคาเสนอขาย IPO ขณะนี้ยังไม่ได้สรุป
นายชาญชัย กุลถาวรากร ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการกำหนดราคาขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้นของ MILL ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ กับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันแล้วพบว่ามีกระแสตอบรับที่ดี โดยนักลงทุนให้ความสนใจหุ้น MILL เป็นอย่างมาก
“ประเด็นสนับสนุนหลักน่าจะมาจากขณะนี้หุ้นกลุ่มก่อสร้าง กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุน เพราะนโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินการของรัฐบาล คือการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งแนวทางดังกล่าวส่งผลดีต่อหุ้น MILL โดยตรง เพราะโครงการก่อสร้างจำเป็นจะต้องใช้เหล็กรูปพรรณชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก" นายชาญชัย กล่าว
นอกจากนี้ MILL ยังเป็นบริษัทฯ ที่น่าสนใจจากการบริหารงานแบบมืออาชีพของคนรุ่นใหม่ การมีวินัยทางการเงิน และแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ประกอบกับอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยมีโอกาสที่จะเติบโต เนื่องจากภาครัฐได้มีการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ เช่น การอนุมัติการก่อสร้างรถไฟฟ้าไปแล้ว 2 สาย ซึ่งการที่รัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้นเช่นนี้ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะมีการเติบโตตามไปด้วยเช่นกัน เช่น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะมีการลงทุนเพิ่มตามแนวเส้นทางที่รถไฟฟ้าผ่านอย่างแน่นอน
ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรวดเร็วของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามหรือลาว ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสามารถกระตุ้นตลาดเหล็กได้เป็นอย่างดี
ด้านนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ MILL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กเส้นก่อสร้าง-เหล็กรูปพรรณนานาชนิด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน MILL มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท สินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 1.77 พันล้านบาท กำลังการผลิตรวมประมาณ 5 แสนตันต่อปี แบ่งเป็นการผลิตเหล็กเส้นและเหล็กข้ออ้อยประมาณ 2.5 แสนตันต่อปี และเหล็กรูปพรรณประมาณ 2.5 แสนตันต่อปี
“เรามีความมั่นใจว่าหุ้น MILL จะเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากขณะนี้แนวโน้มเหล็กอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีจุดเด่นในเรื่องการให้บริการลูกค้าที่ดี การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและส่งมอบสินค้าตรงเวลา รวมทั้งยังมุ่งเน้นการบริการในลักษณะ “One — Stop Service" ที่มีสินค้าเกี่ยวกับเหล็กทุกประเภทจำหน่าย ซึ่งจากการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินก็พบว่า เสียงตอบรับหุ้น MILL อยู่ในระดับที่ดีมากทีเดียว" กรรมการผู้จัดการ MILL กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/พรเพ็ญ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--