สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยหลังจากออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนโดยการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิง (real estate-backed ICO) ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 มีผู้ยื่นคำขออนุญาตออกเสนอขาย real estate-backed ICO แล้ว จำนวน 1 ราย มูลค่าการระดมทุน 2,400 ล้านบาท
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า "การออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลเป็นการระดมทุนทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัล ซึ่ง ก.ล.ต. สนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในตลาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระดมทุนที่มีโครงการหรือทรัพย์สินรองรับ เช่น กรณี real estate-backed ICO ควบคู่ไปกับการมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสม"
ปัจจุบันมีภาคเอกชนเข้ามาหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลจำนวนหนึ่ง และมีผู้ยื่นคำขออนุญาตออกเสนอขาย real estate-backed ICO แล้ว จำนวน 1 ราย มูลค่าการระดมทุน 2,400 ล้านบาท โดยข้อมูลตามแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวนระบุว่า เป็นการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีทรัพย์สินอ้างอิงเป็นกระแสรายรับจากกลุ่มอาคารสำนักงาน
Real estate-backed ICO เป็นการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำได้ 3 วิธี ได้แก่ (1) ซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้นโดยตรง (2) ซื้อหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของบริษัทที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้น หรือ (3) ลงทุนในสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์ โดยอสังหาริมทรัพย์อ้างอิงต้องสร้างเสร็จ มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยผู้ประเมินที่ได้รับความเห็นชอบ และเป็นการลงทุนที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าโครงการ หรือไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ออกเสนอขายโทเคนดิจิทัลต้องใช้ทรัสตี ซึ่ง ก.ล.ต. กำกับดูแล ถือครองอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิในอสังหาริมทรัพย์นั้น โดยทรัสตีมีหน้าที่ดูแลการทำหน้าที่ของผู้ออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล และปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลรักษาสิทธิของผู้ถือโทเคนดิจิทัลด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ระมัดระวัง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือโทเคนดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสม
ตรวจสอบรายชื่อโทเคนดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First หรือเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th หัวข้อ "สินทรัพย์ดิจิทัล" หรือสอบถามข้อมูลหรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร. 1207