(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์:ปัญหาตลาดสินเชื่อสหรัฐฉุดสเตรทส์ไทม์ปิดลบ51.30จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 16, 2007 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อปัญหาตลาดสินเชื่อของสหรัฐอีกครั้ง รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วงลง 51.30 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 3,810.72 จุด หลังจากเคลื่อนไหวสู่ระดับต่ำสุดของวันที่ 3,788.88 จุดและระดับสูงสุดของวันที่ 3,856.36 จุด
ปริมาณการซื้อขาย 3.4 พันล้านหุ้น มูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วงลงตามดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งร่วงลงอย่างหนัก 586.23 จุด หรือ 2.0% ปิดที่ 28,954.55 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่มีการประกาศมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาตลาดซับไพรม์ของสหรัฐที่ชะลอตัวลง โดยซิตี้กรุ๊ป เจพี มอร์แกน และแบงค์ ออฟ อเมริกา ได้ประกาศจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือตลาดตราสารเชิงพาณิชย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินทรัพย์ (ABCP)
"ความต้องการช่วยเหลือสถาบันการเงินดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้น เราหวังว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข และตลาดจะสามารถจัดการกับความเสี่ยงเช่นนี้ได้" นายชาน ไหว่ ชี หัวหน้านักวิจัยจากฟิลิป ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
"ผมหวังว่าตลาดจะจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และดำเนินการได้ตามปกติต่อไป" เขากล่าว
หุ้นหลุ่มธนาคารเป็นแกนนำที่ฉุดให้ตลาดร่วงลงในวันนี้ หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ปิดลดลง 20 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี ร่วงลง 60 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 20 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงเช่นกัน เป็นผลมาจากยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยลดลงเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา
บรรยากาศการซื้อขายบ้านอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ แต่โอซีบีซี ซิเคียวริตี้ส์กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่า ผู้ซื้อบ้านจะมีความระมัดระวังและไม่ใช้จ่ายเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากจนเกินไป
หุ้นแคปิตอล แลนด์ ปิดลดลง 25 เซนต์ หุ้นเค็ปเปล แลนด์ ลดลง 10 เซนต์ หุ้นวิง ไต๋ ลดลง 12 เซนต์ และหุ้นออลกรีน ขยับลง 3 เซนต์
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้นสวนกระแสตลาด โดยราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมัน อันเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างตุรกีและกบฏชาวเคิร์ดในอิรัก
หุ้นสิงคโปร์ ปิโตรเลียม บริษัทผู้กลั่นน้ำมันซึ่งได้ครอบครองบ่อน้ำมันในอินโดนีเซียและจีน ปิดเพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ส่วนหุ้นสกาย ไชน่า ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการงานขุดเจาะนอกชายฝั่งและวิศวกรรมโยธาใต้น้ำแก่อุตสาหกรรมสำรวจน้ำมันและก๊าซของจีน ปิดขยับขึ้น 2 เซนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ