นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ในช่วงไตรมาส 2/64 คาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้จากไตรมาส 1/64 ที่มีรายได้ราว 511 ล้านบาท จากโครงการเน็ตห่างไกล (USO 2) ที่จะมีการเพิ่มจำนวนจุดให้บริการส่งสัญญาณต่อเนื่อง และจะทยอยเปิดบริการได้ครบทุกจุดภายในปี 64 อีกทั้งยังมีลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการในโครงข่ายการให้บริการเพิ่มขึ้นต่อเรื่อง
ขณะที่โครงการ Genesis Data Center ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนนั้น ในช่วงไตรมาส 2/64 จะมีความชัดเจนของลูกค้าต่างประเทศ 2-3 ราย เข้ามาใช้บริการ ซึ่งจะทำให้โครงการดังกล่าวมีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่ม ส่วนโครงการ Data Center ที่บริษัทลงทุนเอง ที่กาญจนาภิเษก ปัจจุบันมีอัตราการใช้บริการอยู่ในระดับ 95% ซึ่งสามารถสร้างรายได้ประจำเข้ามาให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมให้บริการและเสนองานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยที่คาดว่าจะมีงานประมูลออกมาในช่วงไตรมาส 3/64 ซึ่งบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมเข้าประมูล เพื่อที่จะสามารถได้งานมาให้ได้มากที่สุด เพื่อมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้รองรับรายได้ในอนาคต โดยบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 3.64 พันล้านบาท แบ่งเป็น งานบริการโครงข่าย 2.85 พันล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 599 ล้านบาท และงานให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 193 ล้านบาท โดยที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังราว 40% ของ Backlog ทั้งหมด และมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมาย 5 ปี หรือภายในปี 68 จะมีรายได้แตะ 5 พันล้านบาท โดยที่จะเร่งการผลักดันโครงการต่างๆที่เป็น New S Curve ของบริษัทออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ Drone & Anti-Drone ที่ลูกค้าเริ่มมีความสนใจ และจะเป็นอีกก้าวให้กับธุรกิจในการต่อยอดการเติบโตต่อไปได้